ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (14-18 ธ.ค.) ที่ 29.80-30.20 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผลการประชุมนโยบายการเงินของ Fed (15-16 ธ.ค.) กระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนปัจจัยทางการเมือง และสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนธ.ค. ข้อมูลยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOJ และ BOE การเจรจาข้อตกลง BREXIT ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของจีน รวมถึงดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซนและอังกฤษเช่นกัน
ทั้งนี้ เงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทยอยแข็งค่าขึ้นและเข้าทดสอบแนว 30.00 บาท/ดอลลาร์ฯ ในช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ โดยการแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับสัญญาณอ่อนแอของเงินดอลลาร์ฯ และแรงขายเงินดอลลาร์ฯของกลุ่มผู้ส่งออก ประกอบกับมีจังหวะการสลับเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยวันอังคาร และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยในวันพุธของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
โดยในวันพุธ (9 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.05 บาท/ดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.15 บาท/ดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (4 ธ.ค.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 63)
Tags: KBANK, ค่าเงินบาท, ธนาคารกสิกรไทย, เงินบาท