สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษวางแผนที่จะทดลองฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ร่วมกับวัคซีนโควิดของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า โดยมีเป้าหมายที่จะประเมินว่า การใช้วัคซีนของทั้งสองบริษัทร่วมกันนั้น จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ได้ตามแผนการที่วางไว้สำหรับปีหน้าได้หรือไม่
คณะกรรมการเฉพาะกิจด้านวัคซีนของอังกฤษได้เปิดเผยแผนการดังกล่าวในระหว่างการเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าของวัคซีน ซึ่งรวมถึง การทำข้อตกลงเพื่อซื้อวัคซีนจำนวน 357 ล้านโดสจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน 7 ราย และการลงทุนในพื้นที่ 3 แห่งเพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศ
นายไคล์ฟ ดิ๊กซ์ รองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจด้านวัคซีนของอังกฤษกล่าวว่า “นี่จะเป็นการทดลองในขนาดเล็กๆ และจะเป็นการทดลองกับวัคซีนที่ได้รับอนุมัติแล้วเท่านั้น”
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐและบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีแล้ว และจะเริ่มแจกจ่ายให้กับประชาชนในวันนี้ ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในฝั่งตะวันตกที่ได้รับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ขณะที่อังกฤษกำลังเผชิญกับความท้าทายในการขนส่งวัคซีนจำนวนมาก เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนจำนวนมากถึง 67 ล้านคนในโรงพยาบาลราว 50 แห่ง
ส่วนการอนุมัติให้ใช้วัคซีนซึ่งแอสตร้าเซนเนก้าพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดนั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (8 ธ.ค. 63)
Tags: COVID-19, วัคซีน, อังกฤษ, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19, ไคล์ฟ ดิ๊กซ์, ไฟเซอร์