นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจที่นำกำไรไปเพื่อแก้ปัญหาสังคม ในวันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยนาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้ติดตามการดำเนินงานในช่วงเดือนส.ค. – พ.ย.ที่ผ่านมา
พบว่ามีความก้าวหน้าอย่างมาก จำนวนผู้จดทะเบียน SE เพิ่มขึ้น 14 กิจการ รวมเป็น 144 กิจการ และมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงพาณิชย์ เรื่องการส่งเสริมการตลาด จนทำให้สินค้าของSE สามารถจัดจำหน่ายบน แพลตฟอร์ม 1) Thailand Postmart ของไปรษณีย์ไทย 2) ชุมชนยิ้มได้.com ของปตท. 3) Thailtrade.com ได้แล้ว และยังมีการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์กับผู้ซื้อต่างประเทศด้วย
มากไปกว่านั้น สำนักงานวิสาหกิจฯยังรายงานว่า ได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จนสามารถดำเนินการให้ SE สามารถระดมทุนในตลาดแรกได้ (การเสนอขายหุ้นโดยตรงกับผู้ลงทุน) สำเร็จแล้ว 3 กิจการ มูลค่า 114 ล้านบาท
ส่วนแผนระยะต่อไป ที่ประชุมได้เห็นชอบดังนี้
1) การลงนามความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย 14 องค์กร อาทิ ธนาคารออมสิน ก.ล.ต. ปตท. สถาบันที่ทำเรื่องการท่องเที่ยวในชุมชน เพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง (SE Coaching) ในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น การตลาด การเงิน และอื่นๆ
2) การส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมสำหรับคนพิการเป็นการเฉพาะ โดยทำงานร่วมกับสภาคนพิการและกองทุนพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพคนพิการ
3) ผลักดันสิทธิ์ที่ประโยชน์ด้านมาตรการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แก่ SE
รองโฆษกฯ กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย คณะกรรมการฯตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีศักยภาพในการแข่งขัน เป็นองค์กรที่สามารถยืนหยัดอย่างยั่งยืนและตอบโจทย์ปัญหาของสังคม 20% จากที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน และจะมีมาตรการในเรื่องการลดหย่อนภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในวิสาหกิจเพื่อสังคมออกมาในอนาคตอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 63)
Tags: Social Enterprise, รัชดา ธนาดิเรก, วิสาหกิจเพื่อสังคม