นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคมนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ จะเดินทางไปศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำ พร้อมกับเยี่ยมเยียนและมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วย โดยได้รับทราบรายงานในเบื้องต้นว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ล่าสุดขณะนี้ (6 ธ.ค.63) ในหลายจังหวัดระดับน้ำเริ่มลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากฝนจะลดลงต่อเนื่องไป 1 สัปดาห์ และจากอิทธิพลน้ำทะเลหนุนที่ไม่กระทบต่อการระบายน้ำ
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมเครื่องจักร เครื่องมือเร่งระบายน้ำให้ลดลงโดยเร็วที่สุดก่อนจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงวันที่ 12-14 ธันวาคมนี้ และมอบให้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ติดตามประเมินปริมาณฝนในช่วงดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป ขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์พื้นที่ประสบภัยคงเหลืออีก 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา รวมทั้งสิ้น 51 อำเภอ และมีประชาชนได้รับผลกระทบ 290,997 ครัวเรือน
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนและปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ รวมทั้งสั่งให้การช่วยเหลือประชาชนต้องเป็นไปในรูปแบบบูรณาการ โดยให้กระทรวงกลาโหม เร่งช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างสาธารณะ ถนน สะพานที่ได้รับความเสียหาย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงสาธารณสุข ดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งเด็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วย เพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งสำรวจจำนวนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงทรัพย์สินและพื้นที่การเกษตรและปศุสัตว์ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเร่งชดเชย เยียวยา ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังและสำนักนายกรัฐมนตรี
“ท่านนายก ฯ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกระจายกันลงพื้นที่…ก่อนนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มีการแจ้งเตือนและประสานไปยังจังหวัดและองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ด้วย และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมประชุมกับหน่วยงานน้ำทั้งระบบ เพื่อพิจารณาปรับปรุงแผนและมาตรการต่างๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
โฆษกรัฐบาล กล่าว
นายอนุชา กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ในระยะยาวนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จัดทำแผนงานในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน เพื่อให้มืเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก ทั้งการเร่งแผนงานโครงการที่ได้เริ่มดำเนินการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เช่น โครงการระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองนครศรีธรรมราช เป็นการขุดคลองระบายน้ำใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพคลองเดิมเป็น 750 ลบ.ม. ต่อวินาที
นอกจากนั้น ยังมีแผนงานโครงการที่ดำเนินการได้ในปี 2564-2566 อีก 63 โครงการ อาทิ อ่างฯคลองสีสุก จ.สุราษฎร์ธานี แก้มลิงฉลุง จ.สงขลา ระบบระบายน้ำหลักพื้นที่ชุมชนเมืองนครศรีธรรมราช ระยะที่ 2 ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองพัทลุง สงขลา ตรัง และ ยะลา และยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (ขุดคลองผันน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร) ให้สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งก่อสร้างอาคารบังคับน้ำในคลองชุมพรเดิม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565 นอกจากนั้น ยังอยู่ในระหว่างเร่งแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้วทั้งสิ้น 66 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 30 แห่ง และตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 19 แห่ง อีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 63)
Tags: นครศรีธรรมราช, น้ำท่วม, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ภัยพิบัติ, ภาคใต้, ลงพื้นที่, อนุชา บูรพชัยศรี, อุทกภัย