นายพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารขานรับนโยบาย National e-Payment พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบชำระเงินของประเทศให้สอดรับกับทิศทางการขับเคลื่อนประเทศสู่ Digital Transformation ด้วยการประกาศความพร้อมในฐานะผู้ให้บริการภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax) ช่วยดูแลบริหารจัดการเรื่องภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้ผู้ประกอบการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว ทำหน้าที่เป็นตัวกลางหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งกรมสรรพากร พร้อมจัดทำเอกสารรับรองต่างๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จากเดิมที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเองทั้งหมด
ด้วยบริการนี้จะช่วยธุรกิจลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ การจัดการ การจัดเก็บ และการนำส่งเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยที่ผู้รับเงินจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ด้วยอัตราภาษีที่ลดลงตามมาตการของกรมสรรพากร เมื่อเทียบกับรูปแบบการหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบเดิม รวมถึงลดขั้นตอนการดำเนินงานด้านภาษีของภาคธุรกิจ โดยผู้ประกอบการ และผู้รับเงินสามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ จากเว็บไซต์กรมสรรพากรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“บริการ e-Withholding Tax จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรง เมื่อผู้จ่ายเงินโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านธนาคาร ธนาคารจะหักเงิน ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรโดยอัตโนมัติ โดยผู้จ่ายเงินไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax Certificate) ให้ผู้รับเงิน ไม่ต้องยื่นแบบ และไม่ต้องนำส่งเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วยตนเอง ซึ่งหากผู้ประกอบการนำส่งภาษีไว้ไม่ครบถ้วนก็สามารถชำระเพิ่มเติมได้ผ่านระบบ e-Tax Payment ช่องทางบริการ Corporate iCash และ BIZ iBanking ได้ทันที โดยในเบื้องต้นธนาคารกรุงเทพให้บริการ e-Withholding Tax ใน 2 รูปแบบบริการ ได้แก่ e-Withholding Tax สำหรับธุรกรรมโอนเงินในประเทศ และบริการรับชำระภาษีเพิ่มเติม และจะให้บริการธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ ในระยะต่อไป โดยหลังจากเปิดตัวก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า บริการ e-Withholding Tax เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องมีการชำระค่าสินค้าและบริการ และมีรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) ให้กับคู่ค้าจำนวนมาก โดยการปรับมาใช้วิธีการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ในการนำส่งภาษี คู่ค้าจะได้รับมาตรการลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย ของกรมสรรพากร จากเดิม 3% เป็น 2% ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2563-31 ธ.ค. 2564 ซึ่งช่วยให้คู่ค้าได้รับชำระเงินค่าสินค้า และบริการเพิ่มขึ้น จึงบริหารจัดการสภาพคล่องได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ e-Withholding Tax ของธนาคารกรุงเทพ จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 บาทต่อรายการ ฟรี ตั้งแต่ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2563 – 31 ธ.ค. 2564
ธนาคารกรุงเทพยังมีบริการเพิ่มเติม อาทิ การจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ใบเพิ่มหนี้/ใบลดหนี้อิเล็กทรอนิกส์ (e-Debit Note/e-Credit Note) เพื่อจัดส่งให้ลูกค้าหรือคู่ค้าของผู้ประกอบการผ่านทางอีเมลหรือช่องทางที่ตกลงไว้ พร้อมทั้งนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แก่กรมสรรพากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานที่กำหนด
อีกทั้งยังมีความพร้อมให้บริการด้านการชำระเงินแก่หน่วยงานราชการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริการชำระค่าพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ (Customs Paperless e-Payment) บริการชำระเงินสมทบประกันสังคมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Social Security Payment) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วและคล่องตัวขึ้น รวมทั้งสามารถตรวจสอบรายงานการโอนเงินได้ง่ายผ่านระบบออนไลน์เช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 63)
Tags: BBL, กรมสรรพากร, ธนาคารกรุงเทพ, พิพัฒน์ อัสสมงคล