นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางธุรกิจของผู้ประกอบการในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งต้องแบกรับต้นทุนในการดำเนินกิจการ
ขณะที่การค้าขายระหว่างประเทศโดยเฉพาะการส่งออกไปต่างประเทศชะลอตัวลง EXIM BANK ตระหนักและเข้าใจปัญหาดังกล่าว จึงได้ออก “มาตรการของขวัญปีใหม่ ปี 2564” เพื่อช่วยผู้ประกอบการทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจส่งออกและผู้ประกอบการ SMEs ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ให้มีต้นทุนต่ำลง โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ วงเงินสินเชื่อที่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงบริการประกันการส่งออกและบริการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น เพื่อความมั่นใจในการค้าขายระหว่างประเทศแม้ในภาวะเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
มาตรการด้านสินเชื่อ EXIM BANK มีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง เพื่อให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องเพียงพอใช้หมุนเวียนหรือปรับปรุงโรงงานและกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิตในต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่ลดลง
- ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจส่งออก วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 2% ต่อปี (3 เดือนแรก) หลังจากนั้นเป็นไปตามที่เงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยใช้เพียงบุคคลค้ำประกันเท่านั้น
- ผู้ประกอบการ SMEs วงเงินสูงสุด 8 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 4% ต่อปีในปีแรก (Prime Rate -1.50% ต่อปี) หลักประกันขั้นต่ำ 30% และบุคคลค้ำประกัน สามารถใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมได้ และพิเศษ สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพและกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ลดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 อีก 0.25% ต่อปี
มาตรการด้านประกันการส่งออก EXIM BANK ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้บริการประกันการส่งออกในต้นทุนที่ต่ำลง โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลสูงสุด 3,000 บาทต่อราย เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการค้าขายได้อย่างมั่นใจกับคู่ค้ารายใหม่หรือรายเดิม แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวและมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกผันผวน - ผู้เอาประกันรายใหม่ ฟรี! ค่าวิเคราะห์ข้อมูลจำนวน 1 รายต่อกรมธรรม์สำหรับผู้ประกอบการที่ยื่นขอรับบริการ 100 รายแรก
- ผู้เอาประกันรายเดิม ที่ถือกรมธรรม์ประกันการส่งออกกับ EXIM BANK ส่วนลด 50% สำหรับค่าวิเคราะห์ข้อมูลจำนวน 2 รายต่อกรมธรรม์
ทั้งสองมาตรการมีระยะเวลาให้บริการตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2563-28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยสิทธิพิเศษด้านประกันการส่งออกสำหรับผู้ส่งออกหรือผู้เอาประกันที่ไม่เคยได้รับส่วนลดค่าวิเคราะห์ข้อมูลในปี 2563 เท่านั้น
“มาตรการของขวัญปีใหม่ 2564 ของ EXIM BANK มีเป้าหมายเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้ผู้ส่งออกสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้หรือแข่งขันได้มากขึ้นในระยะถัดไป โดยใช้โอกาสนี้ปรับปรุงสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคในโลกปัจจุบันที่มีพฤติกรรมและวิถีการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปในรูปแบบ New Normal ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจและการส่งออกของไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นคง”
นายพิศิษฐ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 63)
Tags: EXIM BANK, SMEs, การส่งออก, นำเข้า, พิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา, สินเชื่อ