กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ “ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 4 ธ.ค.63)” ระบุว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย และจะเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าสู่ทะเลอันดามันต่อไป (3 ธ.ค.) ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับจังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้
- ช่วงวันที่ 2 ธันวาคม 2563 มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
- วันที่ 3 ธันวาคม 2563 มีฝนตกหนักบางแห่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 ธ.ค. 63
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.63 จนถึงปัจจุบันมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย รวม 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่รวม 58 อำเภอ 240 ตำบล 1,480 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 67,070 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต

สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 57 อำเภอ 235 ตำบล 1,440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66,939 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังใน 7 จังหวัด ได้แก่
- นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอลานสกา อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชะอวด อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอขนอม และอำเภอนาบอน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- พัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอป่าบอน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอบางแก้ว และอำเภอศรีบรรพต ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
- สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอจะนะ อำเภอสะเดา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอนาหม่อม อำเภอรัตภูมิ และอำเภอบางกล่ำ ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
- นราธิวาส ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอวิภาวดี และอำเภอท่าฉาง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- ตรัง น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง และอำเภอนาโยง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- ปัตตานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่อำเภอยะหริ่ง อำเภอทุ่งยางแดง และอำเภอมายอ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 1 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช รวม 3 อำเภอ 11 ตำบล 51 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 131 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (2 ธ.ค. 63)
Tags: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรมอุตุนิยมวิทยา, น้ำท่วมฉับพลัน, พยากรณ์อากาศ, ภาคใต้, วาตภัย, สภาพอากาศ