บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) เปิดเผยว่า บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด (SAP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วตั้งแต่เดือน เม.ย.และ ทยอย COD อย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันแตะ 5 เมกะวัตต์แล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ทั้งปีประมาณ 27 ล้านบาท ตามมาตรฐานบัญชีแบบ TFSR 16
ทั้งนี้ SAP ได้เริ่ม COD ให้กับ 10 โครงการได้แก่ บริษัท เค.เค.บี.บ้านโป่ง จำกัด, บริษัท ไทยสตาร์ โพลีฟิล์ม จำกัด, บริษัท เซ็นไทย พลาสติก จำกัด, บริษัท ณฐาภพ จำกัด, บริษัท แจ่มฟ้า ช้อปปิ้งมอลล์ จำกัด, บริษัท ดาต้า เพาเวอร์ จำกัด บริษัท โบลท์ แอนด์ นัท อินดัสตรี้ จำกัด บริษัท ห้องเย็นท่าข้าม จำกัด บริษัท กาญจนา เฟรช พอร์ค จำกัด และ บริษัท สมบูรณ์ แพ็คเกจจิ้ง (888) จำกัด
นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โครงการ Solar Rooftop ภายใต้การดำเนินงานของ SAP ได้ทยอย COD ไปแล้ว 5 เมกะวัตต์ จะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/63 เป็นต้นไป แม้ว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมาการดำเนินงานอาจจะล่าช้าลงบ้างจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ปัจจุบันบริษัทกลับมาเริ่มงานก่อสร้างและติดตั้งได้อย่างเต็มกำลังแล้ว ทำให้หลังจากนี้เราจะสามารถทยอย COD ให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง เมื่อวันที่ 11 พ.ย.SAP ได้จัดงานพิธีลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) ร่วมกับผู้ประกอบการ จำนวน 11 ราย ส่งผลให้ปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือรวมกว่า 17 เมกะวัตต์ คิดเป็นเงินลงทุนรวมราว 460 ล้านบาท เมื่อ COD ครบทั้ง 17 MW แล้ว จะทำให้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 82 ล้านบาทในปีหน้า
โดย SCN เตรียมรับรู้กำไรในลักษณะ Share of Profit มากขึ้นจากโครงการ SAP ในสัดส่วน 53.5% นอกจากนี้ SAP ยังเป็นโครงการ Solar Rooftop ที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินรายใหญ่ของประเทศ แสดงถึงความพร้อมด้านการลงทุนอย่างเต็มที่ ซึ่งตั้งเป้าเดินหน้าสู่กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ภายในปลายปี 63
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 63)
Tags: SAP, SCN, พลังงาน, พลังงานแสงอาทิตย์, ฤทธี กิจพิพิธ, สแกน อินเตอร์, สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์, โซลาร์รูฟ, โรงไฟฟ้า, โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์, ไฟฟ้า