นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ 5 ปี (พ.ศ.2560 – 2564) ได้เห็นชอบการขับเคลื่อนนโยบายเร่งรัดการป้องกัน และควบคุมโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน (Together Fight NCDs)
โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2565 ให้คนไทยลดการบริโภคน้ำตาลและโซเดียมลง 30% หรือลดอาหารหวานมันเค็มลง เพิ่มการออกกำลังกายและการมีกิจกรรมทางกาย ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ
พร้อมรับทราบตัวเลขที่บ่งชี้สุขภาพ และระดับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ ภาวะอ้วน โดยค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ไม่ควรเกิน 23, ความดันโลหิตสูง ไม่เกิน 120/80 mmHg ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เกิน 100 mg/dl โดยสามารถประเมินความเสี่ยงของตนเองผ่านแอปพลิเคชัน Thai CV Risk Score นอกจากนี้ จะลดผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นลง 50% และผู้ที่ป่วยที่เข้ารับการรักษาสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิตได้เกินครึ่ง
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบมาตรการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับองค์กร โดยให้มีแกนนำด้านสุขภาพ (Chief Health Officer) เพื่อจัดมาตรการสร้างเสริมสุขภาพระดับองค์กรในทุกหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน และแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับกรม โดยบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี, จัดโรงอาหารทุกกรมเป็น Healthy Canteen จัดอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพ, จัดสถานที่และสร้างบรรยากาศให้บุคลากรในสังกัด เพิ่มกิจกรรมทางกายและมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่งเสริมและสนับสนุนบุคลากร ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ และเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ ข้อมูลกรมควบคุมโรคล่าสุดปี 2557 คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวาน 8.9% หรือ 4.8 ล้านคน ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง 24.7% หรือ 13.3 ล้านคน โดยข้อมูลในปี 2562 มีผู้ที่ไม่รู้ว่าตนเองเป็นเบาหวาน 43.1% ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา 2.7%, ผู้ป่วยที่รักษา แต่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ 30.6% ส่วนผู้ที่ไม่รู้ว่าตนเองเป็นความดันโลหิตสูง 44.7% ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา 6.1%, รักษาแต่ควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้ 19.5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 63)
Tags: NCDs, กระทรวงสาธารณสุข, สุขภาพ, เกียรติภูมิ วงศ์รจิต, โรคไม่ติดต่อ