พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าร่วมประชุมกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน ที่กระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เริ่มการประชุมด้วยการทักทายนักธุรกิจสหรัฐฯ ในประเทศไทย และผู้ที่ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference โดยทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีมายาวนานเกือบ 200 ปี และหวังรักษาให้ความสัมพันธ์นี้มีความยั่งยืนสืบไป ในฐานะเพื่อนเก่าและมิตรประเทศที่มีความสำคัญกับไทยและอาเซียน
พร้อมชื่นชมเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ที่มีบทบาทอย่างแข็งขัน ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย จะมีการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น
“ในวันนี้เป็นการพบกัน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจที่มีระหว่างกัน จึงขอเชิญชวนนักลงทุน ทั้งที่ได้ลงทุนในไทยแล้ว และอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ให้พิจารณาประเทศไทยด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นรูปแบบการประชุมกึ่งออนไลน์ ที่มีทั้งประชุมผ่านระบบทางไกลจากสหรัฐอเมริกาและในไทย รวมถึงผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง โดยมีผู้บริหารและผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วม จำนวน 89 คน จาก 38 บริษัท 8 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก
ได้แก่ พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สุขภาพ วิทยาศาสตร์ อาหารและการเกษตร การผลิตและภาษี การบริการทางการเงิน การท่องเที่ยว และการคมนาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในอนาคต ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลาย รวมทั้งส่งเสริมให้นักธุรกิจสหรัฐมาลงทุนในไทยมากขึ้น และผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคอย่างเต็มที่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 63)
Tags: ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ศูนย์กลางการลงทุน, สภาธุรกิจ