นายนูร์ ฮิแชม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมอนามัยของมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งให้มีการทยอยปิดโรงงานของบริษัทท็อป โกลฟ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังพบพนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 2,000 ราย
ทั้งนี้ นายนูร์ ฮิแชมกล่าวว่า รัฐบาลจะทยอยปิดโรงงานของทางบริษัทซึ่งมีทั้งหมด 28 อาคาร หลังพบพนักงานติดเชื้อจำนวน 2,453 ราย จากที่มีการตรวจเชื้อทั้งหมด 5,767 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีการกักตัวคนใกล้ชิดที่สัมผัสกับพนักงานเหล่านี้
นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ รัฐมนตรีความมั่นคงมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียเห็นชอบให้มีการทยอยปิดโรงงานของท็อป โกลฟ เพื่อให้มีการตรวจสอบคัดกรอง และกักตัวพนักงาน
อย่างไรก็ดี นายอิสมาอิลไม่ได้เปิดเผยว่าการปิดโรงงานดังกล่าวจะเริ่มขึ้นเมื่อใด
ทั้งนี้ ท็อป โกลฟมีกำไรพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์เกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ หลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 1,884 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 56,659 ราย
นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 2 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 337 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 63)
Tags: COVID-19, ถุงมือยาง, ท็อป โกลฟ คอร์ป, นูร์ ฮิแชม อับดุลเลาะห์, พนักงานติดเชื้อ, มาเลเซีย, โควิด-19