นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมองหาธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและธุรกิจใหม่ ทั้งในส่วนการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโต 5 ปีของบริษัท ในการเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็นธุรกิจบริการเติมน้ำมันอากาศยาน 50% และธุรกิจอื่น ๆ 50 % เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีแผนจะลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ตามกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัท ขณะที่ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด กำลังดำเนินโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือไปยังคลังน้ำมันจังหวัดลำปาง บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด กำลังดำเนินโครงการวางท่อระบบ hydrant ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2
บริษัท บาฟส์ อินโนเวชั่น ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้ให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแก่หน่วยงานภาครัฐ บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด ได้ส่งออกรถเติมน้ำมันอากาศยานและอุปกรณ์ให้บริการภาคพื้นอากาศยานไปที่ สปป.ลาว และเมียนมา พร้อมทั้งการเจรจากับต่างประเทศในการขยายธุรกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในต้นปี 64 ซึ่งจะเป็นการเสริมรายได้ใหม่ให้กับบาฟส์ในอนาคตตามแผน
“บาฟส์ยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังและปรับลดต้นทุนในการดำเนินงานตามมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาสภาพคล่อง รวมทั้งการให้ความสำคัญในการลงทุนที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที”
นายประกอบเกียรติ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินการของ BAFS ในไตรมาส 3/63 มีผลขาดทุนสุทธิ 179.60 ล้านบาท ลดลงจากผลขาดทุนสุทธิจำนวน 228 ล้านบาทในไตรมาส 2/63 โดยเป็นผลจากปริมาณน้ำมันอากาศยานเพิ่มสูงขึ้นกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมาตามการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 63)
Tags: BAFS, บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ, ประกอบเกียรติ นินนาท