หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและท่องเที่ยวดีดตัวขึ้นมาแรง หลังจากการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 มีความคืบหน้า โดยไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ของสหรัฐและ BioNTech เป็นบริษัทยาของเยอรมนีแถลงวานนี้ว่าผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกันมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน
เมื่อเวลา 10.01 น.หุ้น AOT บวก 18.78% มาอยู่ที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.75 บาท
หุ้น AAV บวก 20.13% มาอยู่ที่ 1.91 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท
หุ้น MINT บวก 22.95% มาอยู่ที่ 22.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.20 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ระยะสั้นเนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงการท่องเที่ยวสูง วันนี้จึงแนะนำเก็งกำไรหุ้นธีม Vaccine Play ได้แก่ กลุ่มโรงแรม สายการบิน สนามบิน รวมถึง Commodity โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแรง
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า กลุ่มหุ้นเด่นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ เกิดจากปรากฏการณ์ Short covering เป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่มที่ถูกชอร์ตเซลค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยหากนับดูข้อมูลจากต้นเดือน ก.ย.63 ที่ SET Index อยู่ที่บริเวณ 1,300 จุด จะพบว่าหุ้นในกลุ่มนี้ที่มีปริมาณการชอร์ตเซลมากที่สุดในแง่ของสัดส่วนวอลุ่ม ได้แก่
- AOT: 6.7% ของวอลุ่มการซื้อขายทั้งหมด และถือเป็นตัวหุ้นอันดับ 1 ในตลาดที่มีสัดส่วนการชอร์ตเซลสูงที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้เราคาดว่าจะเป็นตัวที่เห็นปรากฏการณ์ Short covering สูงที่สุด
- ERW: 6.0%
- MINT: 4.8%
- CENTEL: 3.8%
ส่วนกลุ่มอื่นๆที่คาดว่าจะได้ Sentiment เชิงบวกจากข่าววัคซีนดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มสายการบิน เช่น AAV, BA / กลุ่ม Oil & Gas ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ / กลุ่มโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ เช่น BH, BDMS / และกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ในทางกลับกัน กลุ่มที่อาจได้รับ Sentiment เชิงลบระยะสั้น ได้แก่ กลุ่มที่เคยได้ประโยชน์ก่อนหน้านี้ อย่างเช่น ถุงมือยางหรือ STGT เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ย. 63)
Tags: AAV, AOT, CENTEL, ERW, MINT, ท่องเที่ยว, สายการบิน, หุ้นไทย, โรงแรม