ตลาดหุ้นไทยเปิดภาคเช้าพุ่งกว่า 44 จุด ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,300 จุด ตอบรับปัจจัยบวกสำคัญคือความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 หลังจากบริษัทผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐและเยอรมนีประกาศผลสำเร็จของการทดลองที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมากกว่า 90% โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและท่องเที่ยวโดยเฉพาะโรงแรมและสายการบินดีดตัวขึ้นมาแรง นำโดย AOT (+18.78%) , MINT (+22.95%) , AAV (+20.13%)
เมื่อเวลา 9.59 น.ดัชนี SET เปิดที่ 1,330.14 จุด เพิ่มขึ้น 44.26 จุด (+3.44%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.15 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,317.25 จุด เพิ่มขึ้น 31.37 จุด (+2.44%)
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดปรับตัวขึ้นกว่า 40 จุด คิดเป็นประมาณกว่า 3% ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างก็ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1% ตอบรับความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากไฟเซอร์ และ BioNTech แถลงว่าผลการทดลองร่วมกันพัฒนาวัคซีนมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างปรับตัวขึ้นแรง อย่างกลุ่มโรงแรมก็ขึ้นมานำโดยหุ้น MINT, กลุ่มพลังงานขึ้นมานำโดย TOP ที่คาดหวังความต้องการใช้น้ำมันเจ็ทจะมากขึ้น และกลุ่มธนาคาร นำโดยหุ้น KBANK ที่มีลูกค้าในธุรกิจท่องเที่ยวจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ตอบรับเร็วเกินไปจากการเปิดกระโดด ทำให้อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง เนื่องจากในช่วง 1 สัปดาห์ดัชนีฯปรับตัวขึ้นไปกว่า 100 จุดแล้ว อย่างไรก็ดี ดัชนีฯยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,340 จุด ดังนั้นหากวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ออกมาจริงก็น่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น แนะรอให้ย่อตัวค่อยซื้อ เพราะตอนนี้ถือว่าขึ้นแรงไปแล้ว
พร้อมให้แนวรับ 1,280-1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ย. 63)
Tags: SET, SET Index, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, วิจิตร อารยะพิศิษฐ, หุ้นไทย, เมย์แบงก์ กิมเอ็ง