คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ตัดสินใจในวันนี้ที่จะใช้เงิน 1.03 หมื่นล้านเยน (94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากกองทุนสำรองของญี่ปุ่นในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไวรัสโควิด-19
ภายใต้นโยบายเร่งด่วนมูลค่ารวม 1.53 หมื่นล้านเยนนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดสรรเงินทุนส่วนใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการฉุกเฉิน ตั้งแต่การพัฒนาชุดทดสอบการติดเชื้อที่ได้ผลรวดเร็วและการพัฒนาวัคซีน เพื่อให้โรงพยาบาลจำนวนมากขึ้นสามารถรักษาอาการที่เกิดจากเชื้อไวรัสดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตหน้ากากหน้าอนามัยที่ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตจะได้รับเงินอุดหนุนสูงถึงรายละ 30 ล้านเยน ขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ต้องการจัดหาหน้ากากอนามัยอย่างน้อย 600 ล้านชิ้นต่อเดือนให้กับประชากรของญี่ปุ่นราว 126 ล้านคน
ส่วนการแข่งขันกีฬาโตเกียว โอลิมปิก และพาราลิมปิกที่จะจัดขึ้นในปีนี้นั้น ญี่ปุ่นจะใช้เงินบางส่วนเพื่อสนับสนุนมาตรการกักกันและควบคุมผู้ติดเชื้อ
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บนเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซสส์ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือเมืองโยโกฮามา ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือประมาณ 3,500 คน
ญี่ปุ่นได้ประกาศห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางจากมณฑลหูเป่ยและมณฑลเจ้อเจียงของจีนภายใน 2 สัปดาห์ไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากทั้งสองมณฑลดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้สร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นซึ่งต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน และได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 63)
Tags: COVID-19, ทุนสำรอง, วัคซีน, หน้ากากอนามัย, โควิด-19, โอลิมปิก2020, ไดมอนด์ พรินเซส, ไวรัสโคโรนา