สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) ขานรับธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 50.6 ดอลลาร์ หรือ 2.67% ปิดที่ 1,946.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2563
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.298 ดอลลาร์ หรือ 5.43% ปิดที่ 25.191 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 29.8 ดอลลาร์ หรือ 3.42% ปิดที่ 899.9 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 76 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 2,383.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำพุ่งขึ้นหลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ในขณะที่อังกฤษเริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.จนถึงวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ประกาศเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรอีก 1.50 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับผลกระทบจากการล็อกดาวน์รอบสองเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19
สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.94% แตะที่ 92.5269 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 63)
Tags: COMEX, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง, ราคาทองวันนี้