เงินบาทปิดตลาด 30.88/90 ต่อดอลล์ แข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.88/90 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.99 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่ มิ.ย.63 จากผลของดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และคาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทก็ยังมีทิศทางแข็งค่าต่อ

“นักลงทุนถือสถานะ long ดอลลาร์สหรัฐน้อยลง เพราะยังมีความไม่แน่นอนเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ”

นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.75-31.00 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.25/29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.28 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1789/1793 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1724 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,264.32 จุด เพิ่มขึ้น 41.88 จุด (+3.43%) มูลค่าการซื้อขาย 80,915 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 127.05 ลบ.(SET+MAI)
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยเงินเฟ้อ ต.ค.63 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -0.50% ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นเพราะเริ่มติดลบน้อยลง และคาดว่าในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ อัตราเงินเฟ้อจะเริ่มติดลบน้อยลงตามความต้องการอุปโภคบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยคาดว่าทั้งปีอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ -0.85%
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในเดือน ต.ค.63 พบว่า ในอีก 3 เดือนข้างหน้าดัชนีอยู่ที่ระดับ 61.27 ปรับตัวลดลง 9% จากเดือนก่อนหน้า และยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐและการไหลเข้าออกของเงินทุน ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ รองลงมาคือ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงความกังวลต่อการระบาดระลอกสองของโควิด-19
  • นายชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ กล่าวในวันนี้ว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐยังคงไม่มีความชัดเจน แต่ใครก็ตามที่เป็นผู้ชนะ จำเป็นจะต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในประเทศเพื่อปรับตัวรับความท้าทายต่างๆ ของโลกาภิวัฒน์และการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัล หรือจะเสี่ยงกับการต่อต้านอย่างอย่างรุนแรงจนอาจจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลก
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศปี 2563 โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะหดตัวลง -11% พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์ GDP ในปี 2564 ว่าจะขยายตัวได้ 7.25% ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า GDP จะขยายตัวได้ 9% ในปี 2564
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ในการประชุมวันนี้ตามที่ตลาดคาด ในขณะที่อังกฤษเริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 2 ธ.ค.63 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเครา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (5 พ.ย. 63)

Tags: , ,
Back to Top