นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการหารือทวิภาคีทางโทรศัพท์ ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ซึ่งใช้เวลาหารือประมาณ 20 นาที โดยทางเมียนมาได้ขอบคุณประเทศไทยที่ได้ช่วยเหลือในการบริหารจัดการโรคโควิด-19 เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาและเวชภัณฑ์ หรือการประสานแรงงานเมียนมาให้เดินทางกลับประเทศ แม้กระทั่งแรงงานที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ก็ยังขยายระยะเวลาการพำนักอยู่ในประเทศไทยในช่วงโควิด-19 ซึ่งหวังว่าในอนาคตเมื่อมีการค้นคว้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้สำเร็จ ไทยและเมียนมาจะมีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการหารือกันถึงเรื่องการค้าการลงทุน ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ โดยผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะให้หน่วยงานต่างๆ พูดคุยกันได้ต่อเนื่องผ่านระบบ video conference ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) การเผาป่าบริเวณชายแดนไทยเมียนมา, ปัญหายาเสพติด และการลักลอบนำเข้าแรงงานตามแนวชายแดน
“การพูดคุยวันนี้ เมียนมาไม่ได้มีการขอความช่วยเหลืออะไรจากไทยเพิ่มเติม แต่เป็นการขอบคุณประเทศไทยที่การให้การช่วยเหลือในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นการพูดคุยกันตามปกติ และในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรี จะพูดคุยผ่าน video conference กับนายกรัฐมนตรีเวียดนามเช่นกัน”
นายอนุชา ระบุ
สำหรับการติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ และติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยสอบถามกับคณะทำงานว่ามีใครได้คะแนนถึง 270 คะแนนแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ รัฐบาลยังไม่มีการประเมินว่าหากใครชนะเลือกตั้งแล้วจะต้องปรับท่าทีอย่างไร เพราะขณะนี้ผลการเลือกตั้งยังไม่มีความชัดเจน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ก็จะไม่ส่งผลกับประเทศไทยมากนัก เพราะนโยบายด้านต่างๆ และความร่วมมือระหว่างกันยังคงเดินหน้าต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 63)
Tags: video conference, ชายแดน, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อนุชา บูรพชัยศรี, ออง ซาน ซูจี, เมียนมา, แรงงาน