![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2020/09/20200925_canva_covid_china-1024x576.png)
รัฐบาลจีนประกาศห้ามผู้ที่เดินทางจากอังกฤษและเบลเยียมเข้าสู่ประเทศจีนเป็นการชั่วคราว พร้อมกำหนดมาตรการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวดสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสหรัฐ ฝรั่งเศส และเยอรมนี นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังประกาศใช้มาตรการควบคุมพื้นที่ชายแดนอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก
สถานทูตจีนในอังกฤษแถลงในวันพุธว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รัฐบาลจีนสั่งห้ามประชาชนที่ไม่ใช่พลเมืองจีนซึ่งเดินทางจากอังกฤษเข้าไปยังประเทศจีน แม้จะถือวีซ่าผู้อยู่อาศัยถาวรของจีนก็ตาม ขณะที่สถานทูตจีนในเบลเยียมได้ออกแถลงการณ์ในลักษณะเดียวกันโดยห้ามผู้ที่เดินทางจากเบลเยียมเข้าไปยังประเทศจีน โดยเบลเยียมเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดในยุโรป
การประกาศมาตรการดังกล่าวซึ่งบังคับใช้เป็นการชั่วคราวนั้น มีขึ้นในช่วงเวลาที่อังกฤษบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เป็นเวลา 1 เดือนโดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ หลังจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอังกฤษพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในยุโรป และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 20,000 รายต่อวัน
นอกจากนี้ จีนยังได้เริ่มใช้มาตรการคุมเข้มสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศจีน โดยนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสหรัฐ ฝรั่งเศส และเยอรมนี จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งในแบบการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด (nucleic acid test) และการตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดีของเชื้อโควิด-19 โดยการตรวจสอบเหล่านี้จะต้องดำเนินการภายในเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนที่จะขึ้นเครื่องมายังประเทศจีน
หากผู้โดยสารจำเป็นต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศจีน ก็จะต้องผ่านการตรวจในลักษณะดังกล่าวในประเทศต้นทางด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังกำหนดมาตรการเดียวกันนี้กับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
ด้านหอการค้าสหภาพยุโรปในประเทศจีนได้ออกมาโต้แย้งมาตรการดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจีนจะเปลี่ยนแปลงระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการที่ประชาชนต้องการจะกลับไปใช้ชีวิต ไปทำงาน หรือไปเยี่ยมครอบครัวในประเทศจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 63)
Tags: COVID-19, จีน, โควิด-19