นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกกพ. เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) มีมติปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือน ม.ค.-เม.ย.64 ลง 2.89 สตางค์/หน่วย มาที่ -15.32 สตางค์/หน่วย จากการเรียกเก็บในงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค.63) ที่ -12.43 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงเหลืออยู่ที่ราว 3.61 บาท/หน่วย เป็นผลจากการบริหารจัดการและตรึงค่าเอฟทีเพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
“ถึงแม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะมีแนวโน้มสูงขึ้น จากความต้องการก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นในตลาดโลก แต่ด้วยการบริหารจัดการ การนำเข้า LNG Spot ซึ่งมีราคาถูกกว่าราคาก๊าซฯในอ่าวไทยในช่วงที่ผ่านมา และสามารถทดแทนก๊าซฯในอ่าวได้บางส่วน ทำให้ราคา Pool Gas มีราคาถูกลง ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซฯมีราคาถูกลงกว่าที่ได้เคยประมาณการไว้”
“อย่างไรก็ตาม กกพ.ได้คำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ราคาเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจที่อาจยังไม่ฟื้นตัวในระยะสั้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งศักยภาพการตรึงเอฟทีตลอดทั้งปี 64 แล้ว จึงมีมติให้เรียกเก็บค่าเอฟทีในอัตรา -15.32 สตางค์ ในรอบเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน 2564” นายคมกฤช กล่าว
นายคมกฤช กล่าวว่า ปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟที ในงวด ม.ค.-เม.ย.64 ประกอบด้วย
1.ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 64 เท่ากับประมาณ 60,685 ล้านหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.63 ที่คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 58,910 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 3%
2.สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.64 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก 55.32% นอกจากนี้เป็นการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 14.92% ลิกไนต์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 9.47% ถ่านหินนำเข้า 8.31% และอื่นๆ อีก 8.14%
3.สถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยรวมราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยแต่ละประเภทส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา โดยราคาก๊าซธรรมชาติ ทุกแหล่ง คาดว่าเพิ่มขึ้น 5.63 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู มาที่ 225.53 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ,ราคาน้ำมันเตา เพิ่มขึ้น 4.17 บาท/ลิตร มาที่ 20.15 บาท/ลิตร ,น้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.51 บาท/ลิตร มาที่ 22.61 บาท/ลิตร ส่วนราคาลิกไนต์ ของกฟผ. ทรงตัวที่ 693 บาท/ตัน ขณะที่ราคาถ่านหินนำเข้าปรับตัวลดลง 152.22 บาท/ตัน มาที่ 2,302.57 บาท/ตัน
4.อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ใช้ในการประมาณการ (1-31 ก.ย.63) เท่ากับ 31.4 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากประมาณการในงวดเดือน ก.ย. -ธ.ค.63 ที่ประมาณการไว้ที่ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บประจำเดือน ม.ค.-เม.ย.64 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 5-19 พ.ย.63 ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 63)
Tags: คมกฤช ตันตระวาณิชย์, ค่าไฟฟ้าผันแปร, สำนักงาน กกพ., เอฟที