นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าปัญหาสำคัญของประเทศในขณะนี้เกิดจากตัวนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก หลังบริหารประเทศมา 5-6 ปีมีแต่ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ไม่ได้มีความปรองดองเกิดขึ้นเลย ทั้งเศรษฐกิจยังล้มเหลว ฝ่ายค้านจึงเห็นว่าการตั้งคณะกรรมการอะไรขึ้นมาคงเปล่าประโยชน์ คงต้องถอดสลักสำคัญอันนี้ของประเทศออกเสียก่อน ซึ่งได้มีการอภิปรายในสภาไปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออกเสียก่อน
ที่ผ่านมาการตั้งคณะกรรมการหลายครั้งหลายหนไม่มีอำนาจที่จะไปดำเนินการใดๆ เช่น กรรมการเห็นว่า ควรมีการนิรโทษกรรม แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเป็นเพียงแค่ข้อแนะนำ รัฐบาลไม่ได้เอาไปดำเนินการ และการที่จะมีกรรมการชุดนี้ขึ้นมา
“สิ่งสำคัญที่สุดต้องตีโจทย์ให้แต่ปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นขณะนี้คืออะไร แล้วแก้ที่ปัญหาโจทย์นั้น เราอยากตรวจสอบดูก่อนว่า คุณตั้งกรรมการชุดนี้ คุณมีโจทย์อย่างไร ถ้าอยากคลี่คลายปัญหาประเทศ เรามองว่า สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดอันดับแรก คือการหยุดคุกคามนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนก่อน เพราะหากยังมีการคุกคามอยู่ โอกาสที่จะคลี่คลายปัญหาโดยคณะกรรมการอะไรก็แล้วแต่คงจะไม่มีประโยชน์ และสำเร็จได้ยาก”
นายชูศักดิ์ กล่าว
หากนายกรัฐมนตรีจะใช้วิธีการยุบสภาเพื่อเป็นทางออกนั้น ตนเองไม่เห็นด้วย เพราะการยุบสภาทำให้เกิดการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งในระบบเดิม เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้รับการแก้ไข ส.ว.ทั้ง 250 คนก็ยังอยู่เหมือนเดิม โหวตเลือกนายกฯก็ยังเหมือนเดิม หากใช้วิธีนี้คงมองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากท่านเห็นแก่ตัว
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า ฝ่ายค้านเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความขัดแย้ง และยังมองไม่เห็นช่องทางในการประนีประนอมหรือยุติลงได้ ฝ่ายค้านจึงได้ระดมความคิดว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองไปสู่ความสงบ โดยมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันคนกลุ่มหนึ่งถูกใช้กฎหมายดำเนินการจับกุมดำเนินคดี ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายเล็กเหนือกฎหมายใหญ่ ใช้กฎหมายเหนือความยุติธรรม
“ยังไม่บอกว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ขอดูเนื้อหาสาระและโครงสร้างของคณะกรรมการก่อน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังไม่มีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม เราไม่เห็นด้วยที่จะเข้าร่วมโดยไม่เห็นปลายทางว่า จะแก้ไขอะไร ปัญหาทั้งหมดขึ้นกับนายกฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านได้อภิปรายชี้แจงให้นายกฯเห็นแล้วว่า นายกฯล้มเหลว ไร้ความสามารถทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม ทำให้เกิดการชุมนุมของกลุ่มนิสิต นักศึกษา นายกฯ ต้องตัดสินใจเสียสละลาออก และหยุดคุกคามประชาชน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการพูดคุยหาทางออกให้ประเทศได้ วันนี้สภาไม่สามารถแก้ปัญหาให้ได้ นายกฯต้องตั้งโจทย์ให้ถูกแต่แรก วันนี้ท่านคือปัญหา แต่เมื่อยังโยนความรับผิดชอบให้สภา และฝ่ายค้าน ท่านกำลังทำตัวถ่วงดุลวิกฤต ดังนั้น เลิกโยนปัญหาให้คนอื่นเสียที
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถ้าวันนี้พวกเรามองว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือปัญหา ดังนั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป การพูดคุยหรือการคลี่คลายปัญหาคงจะง่ายขึ้น หากจะมีคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา ตรงนี้จะต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เขาสามารถมาเสนอข้อเรียกร้องสู่สาธารณะได้ แล้วหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ และกรรมการชุดนี้ต้องสรุปจุดร่วม และจุดต่างเพื่อนำมาหาช่องทางในการทำงานร่วมกัน
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐตั้งโจทย์ว่า การชุมนุมเป็นปัญหาของบ้านเมือง แต่ไม่ได้มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นปัญหาของบ้านเมือง การที่ประชาชนออกมาชุมนุม เพราะการบริหารงานที่ล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง การจะหาทางออกให้บ้านเมืองได้มากน้อยแค่ไหน ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสิ่งสำคัญ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เสียสละเพื่อประเทศโดยการลาออกการแก้ปัญหาก็เกิดขึ้นได้ยาก
นายพนัส ทัศนียานนท์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ยังมีคดีที่มีหมายจับ และต้องอาญัติตัวผู้ชุมนุมอีกกว่า 80 หมาย ซึ่งมากเกินไปในความรู้สึกของประชาชน เพราะสิ่งที่เขาออกมาทำคือการชุมนุมเพื่อเรียกร้องระบอบประชาธิปไตย การใช้กฎหมายแบบนี้เสมือนเป็นการคุกคาม ทั้งที่ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการแสดงความคิดเห็น การใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ ทำให้ความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น อย่าเอากฎหมายรองมาเหนือกว่ากฎหมายหลัก ซึ่งคือรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิไว้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 63)
Tags: การเมือง, ชูศักดิ์ ศิรินิล, ทวี สอดส่อง, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พนัส ทัศนียานนท์, พรรคร่วมฝ่ายค้าน, พรรคเพื่อไทย, ภูมิธรรม เวชยชัย, รังสิมันต์ โรม, สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ