กลุ่มดุสิตธานี ลงนามในสัญญาบริหารโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี” แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น กับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว โดยลงนามผ่านบริษัท ดีแอนด์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิตธานีในกรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน
ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ทำให้ ดุสิตธานี กลายเป็นแบรนด์โรงแรมไทยแห่งแรกในเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมอย่างเกียวโต และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดุสิตในการขยายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว อาทิ การสร้างงานในชุมชน การสนับสนุนเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ
นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดุสิตธานี (DTC) กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานีรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด เพื่อนำเสนอการบริการที่สง่างามแบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของเราในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก การลงนามครั้งนี้เป็นการดำเนินตามกลยุทธ์การเติบโตแบบยั่งยืนและถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี เราเชื่อมั่นว่าตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะสามารถกลับมาแข็งแกร่งและเป็นที่นิยมเหมือนเช่นเดิม หลังจากต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในสถานการณ์ปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น เกียวโตยังเป็นจุดหมายปลายทางอันยอดเยี่ยม ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม เราหวังว่าจะนำจุดเด่นมาใช้กับโรงแรมของเรา เพื่อให้การดำเนินงานของเราสอดคล้องและเอื้อประโยชน์ให้กับชุมชนโดยรอบและผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายในระยะยาว
ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากสถานีเกียวโตในย่านฮอนกันจิ มอนเซน-มาชิ เพียง 850 เมตร ได้รับการออกแบบให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยขนาด 4 ชั้น มีห้องพักประมาณ 150 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ได้แก่ ห้องอาหารที่เป็นธีมแบบไทย ซึ่งเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน, ร้านอาหารญี่ปุ่น, ล็อบบี้เลานจ์และบาร์, ห้องจัดเลี้ยง ฟิตเนส และสถานที่ให้บริการเวลเนส ที่สำคัญรอบๆ โรงแรมยังรายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง
เช่น วัดฮิกะชิ ฮอนกันจิ, วัดนิชิ ฮอนกันจิ ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก, เกียวโตทาวเวอร์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโตนอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถไปยัง กิออน ย่านเกอิชาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ด้วยรถไฟเพียง 10 นาที หรือไปเที่ยวตลาดนิชิกิ ซึ่งเป็นตลาดและถนนสายช้อปปิ้งอันคึกคักและโด่งดังที่สุดในเมืองเกียวโต จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ครัวของเกียวโต ก็อยู่ห่างจากโรงแรมเพียง 15 นาทีโดยรถไฟเท่านั้น
โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา มีผู้มาเยือนเกียวโต 87.91 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.86 ล้านคนจากปี 2561 ในขณะที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศหยุดชะงักชั่วคราวจากการจำกัดการเดินทาง ซึ่งผู้บริหารของดุสิตธานี คาดการณ์ว่า เมืองเกียวโตจะกลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญเช่นเคย เมื่อนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีกครั้ง
ด้านนายมาซาฮิโระ นากางาวะ ประธานบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความภูมิใจและยินดีที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มดุสิตธานี ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังช่วยส่งต่อคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต ด้วยการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากท้องถิ่นและการผสมผสานกันระหว่างการบริการที่มีเอกลักษณ์แบบไทยและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน จะยิ่งทำให้โรงแรมดุสิตธานี เกียวโตสามารถมอบประสบการณ์การเข้าพักที่น่าจดจำอย่างแท้จริงในใจกลางเมืองได้อย่างแน่นอน
ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานี ประกอบด้วย โรงแรมและรีสอร์ทจำนวน 339 แห่ง ที่ดำเนินงานภายใต้ 6 แบรนด์ใน 14 ประเทศ โดยดุสิตได้มีโอกาสบุกเข้าตลาดญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ ผ่านอีลิธ เฮเวนส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับบริหารวิลล่าหรูชั้นนำในเอเชีย ที่รับบริหาร สกีชาเล่ท์ ซึ่งเป็นพี่พักบนภูเขาในสกีรีสอร์ทสุดหรูที่นิเซโกะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (2 พ.ย. 63)
Tags: DTC, ญี่ปุ่น, ดีแอนด์เจ, ดุสิตธานี, ท่องเที่ยว, มาซาฮิโระ นากางาวะ, ยาสุดะเรียลเอสเตท, ศุภจี สุธรรมพันธ์, อสังหาริมทรัพย์, โรงแรม