นายสมชาย สิริปัญญานนท์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.เอสวีไอ (SVI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับคำสั่งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกล้องวงจรปิดอัจฉริยะจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 30 ล้านเหรียญฯ ในปี 64 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านเหรียญฯ ในปีถัดๆ ไป
โดยบริษัทฯ ก็ได้เตรียมความพร้อมสายการผลิตของโรงงานที่ประเทศกัมพูชา ในการขยายการลงทุนเพิ่มพื้นที่อีก 10,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับโครงการดังกล่าวและออร์เดอร์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ มองแนวโน้มกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ หรือ Security Network Camera มีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากนโยบายภาครัฐในหลายประเทศที่ต้องการผลักดันเมืองหลวงให้เป็นสมาร์ทซิตี้ รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น การจดจำใบหน้า การจดจำป้ายทะเบียน การนับจำนวนคน การเฝ้าดูแลผู้ป่วยโควิด ทำให้มีความต้องการใช้กล้องวงจรปิดอัจริยะเพื่อเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมืองใหญ่และที่อยู่อาศัยมากขึ้น
โดยประเมินว่ามูลค่าตลาดกล้องวงจรปิดในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 74.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 68 จากปัจจุบันที่มีมูลค่า 45.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และส่งผลให้ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกล้องวงจรปิดอัจฉริยะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“SVI สามารถใช้โซลูชั่นอัจฉริยะ (Smart Solution) โดยนำจุดแข็งด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง ตอบสนองความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย พัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดีขึ้น”
นายสมชาย กล่าว
ปัจจุบัน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกล้องวงจรปิดอัจฉริยะเป็นหนึ่งในสินค้าเรือธงของบริษัทฯ โดยคาดว่าจากการรุกขยายตลาดใหม่ ๆ ในครั้งนี้ โดยเฉพาะลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย จากเดิมที่มีความแข็งแกร่งในตลาดภูมิภาคยุโรป จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20% ของรายได้รวม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (2 พ.ย. 63)
Tags: SVI, กล้องวงจรปิด, สมชาย สิริปัญญานนท์, เอสวีไอ