ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 500 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ณ เวลา 13.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 520 จุด หรือ 1.96% แตะที่ 26,037 จุด
แอปเปิล อิงค์ เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 6.47 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบรายปี โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากยอดขาย iPhone อยู่ที่ 2.644 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 20.7% เมื่อเทียบรายปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.793 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านเฟซบุ๊ก อิงค์ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2563 ที่ระดับ 2.71 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.91 เซนต์ แต่จำนวนผู้ใช้งานรายวันของเฟซบุ๊กในสหรัฐและแคนาดา ลดลงสู่ระดับ 196 ล้านรายต่อวันในไตรมาส 3 จากระดับ 198 ล้านรายต่อวันในไตรมาส 2
ส่วนแอมะซอน (Amazon) เปิดเผยรายได้อยู่ที่ระดับ 9.615 หมื่นล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 37% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่นักลงทุนผิดหวังที่บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ในกรอบกว้าง โดยระบุว่า รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 1-4.5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าบริษัทจะมีต้นทุนในการรับมือกับโรคโควิด-19 ที่ระดับราว 4 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 63)
Tags: Amazon, dow jones futures, ดาวโจนส์ฟิวเจอร์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, เฟซบุ๊ก อิงค์, แอปเปิล อิงค์, แอมะซอน