นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/63หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 3.14% เทียบกับไตรมาส 2 ที่ 3.09% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นโดยไม่ได้มีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ธปท. ได้ปรับมาตรการเป็นการให้ความช่วยเหลือเชิงรุกและตรงจุดที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกหนี้แต่ละรายไปแล้วนั้น ธปท. ได้กำชับสถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เต็มที่ โดยปรับโครงสร้างหนี้เชิงรุกมากขึ้นสำหรับลูกหนี้ที่ยังไม่สามารถกลับมาจ่ายชำระหนี้ได้ตามปกติ โดยการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย รวมถึงใช้มาตรการอื่นตามความเหมาะสม เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย การพักชำระค่างวด รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อย และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายราย
นายจาตุรงค์ กล่าวว่า แม้ว่าสถาบันการเงินได้เริ่มดำเนินการช่วยลูกหนี้แล้ว สะท้อนจากตัวเลขการจัดชั้นหนี้เสื่อมคุณภาพและ NPL ที่ผ่านมายังไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็ขอให้สถาบันการเงินเร่งให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอีก ขณะเดียวกันลูกหนี้ SMEs ที่ยังมีรายได้ไม่เพียงพอจ่ายหนี้ หรือคาดว่าอาจติดขัดเพราะรายได้ยังไม่ฟื้นตัว ขอให้รีบติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้
สำหรับสินเชื่อซอฟต์โลนที่ยังมีวงเงินเหลืออยู่อีกจำนวนมาก ขณะนี้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เข้ามาช่วยค้ำประกันในปีที่ 3-10 ในวงเงิน 57,000 ล้านบาท ทำให้ลูกหนี้ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อซอฟต์โลนได้ง่ายขึ้น โดยลูกหนี้ที่เคยขอซอฟต์โลนไปแล้วแต่สถาบันการเงินไม่มีความมั่นใจที่จะปล่อยกู้ก็สามารถกลับมาติดต่อขอสินเชื่อใหม่ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ต.ค. 63)
Tags: จาตุรงค์ จันทรังษ์, ธนาคารพาณิชย์, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., ลูกหนี้, สถาบันการเงิน