เมอร์ค (Merck) บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐคาดว่า บริษัทจะสามารถเปิดเผยข้อมูลจากการวิจัยเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า วัคซีน V591 ซึ่งเป็นวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของทางบริษัทนั้นจะสามารถกระตุ้นการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันให้กับผู้ร่วมทดลองได้หรือไม่ ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ เมอร์คเพิ่งเริ่มหาผู้ร่วมเข้าทดลองวัคซีน V591 ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาสำหรับการทดลองขั้นต้น โดยซื้อวัคซีนดังกล่าวมาจาก Themis Bioscience ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนของออสเตรเลีย
นายโรเจอร์ เพิร์ลมัตเตอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของเมอร์คเปิดเผยในการประชุมทางโทรศัพท์ว่า เมอร์คกำลังร่วมมือกับองค์การริเริ่มวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ระหว่างประเทศ (IAVI) เพื่อพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ตัวที่สองด้วย โดยจะใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่เมอร์คใช้ในการผลิตวัคซีนอีโบลา
เมอร์คเปิดเผยว่า กำลังดำเนินการสร้างหน่วยผลิตเพื่อให้สามารถผลิตวัคซีนโควิด 2 ตัวดังกล่าวหลายล้านโดส โดยยืนยันว่าจะทำการผลิตวัคซีนดังกล่าวให้ได้จำนวนมากก่อนได้รับการอนุมัติเพื่อให้เร่งการผลิตต่อไป
นอกเหนือจากการพัฒนาวัคซีน เมอร์คยังได้เริ่มการทดลองในขั้นสุดท้ายสำหรับยาต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกับบริษัท Ridgeback Biotherapeutics ของสหรัฐ ซึ่งจะสามารถผลิตยาต้านโรคโควิด-19 จำนวนหลายล้านโดสก่อนสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ เมอร์คเริ่มการทดลองวัคซีนต้านโรคโควิดเฟสแรกล่าช้ากว่าบริษัทอื่นๆ อย่างมาก ขณะที่บริษัทยาคู่แข่งอย่างไฟเซอร์, แอสตร้าเซนเนก้า และโมเดอร์นา ได้เข้าสู่การทดลองวัคซีนโควิดขั้นสุดท้ายแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 63)
Tags: COVID-19, Merck, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สหรัฐ, เมอร์ค, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19, โมเดอร์นา, โรเจอร์ เพิร์ลมัตเตอร์, ไฟเซอร์