บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ขอความร่วมมือประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ แสงเลเซอร์ อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ในเขตโดยรอบสนามบินทั้ง 6 แห่งช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2563 เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน ผู้โดยสาร และประชาชน
ช่วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2563 จะเป็นช่วงระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งในบางพื้นที่มักจะมีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย โคมควัน เพื่อความเป็นสิริมงคล ในส่วนของ AOT ซึ่งบริหารสนามบินหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยวัตถุอันตรายขึ้นสู่ท้องฟ้า เช่น การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง การปล่อยแสงเลเซอร์ และอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบิน
โดยเฉพาะในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ (บริเวณสนามบินและโดยรอบสนามบิน) ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 59/1 และ 59/2 และประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง การดำเนินกิจกรรมภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ พ.ศ.2563 ที่ห้ามมิให้การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน บั้งไฟ พลุ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศโดยเด็ดขาด รวมถึงห้ามปล่อยแสงเลเซอร์ในบางพื้นที่ และตามประกาศ กพท. เรื่อง แนวทางในการพิจารณาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (ห้าไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดให้ผู้บังคับหรือปล่อยโดรนต้องขออนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายก่อนทุกครั้งและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการปล่อยโคมลอยฯ ตรวจสอบรายละเอียดในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือประกาศจังหวัดที่ต้องการจะปล่อย ซึ่งจะระบุรายละเอียดของพื้นที่ที่สามารถอนุญาตปล่อยได้ โดยในการจะปล่อยนั้นต้องดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
โดยในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับความนิยมในการปล่อยโคมลอยฯ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยโคมลอยฯ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศอย่างเด็ดขาดในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ
- อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทุกตำบล
- อำเภอหางดง ทุกตำบล
- อำเภอสารภี ใน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล และหนองผึ้ง
- อำเภอแม่ริม ใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ริมใต้ และแม่สา และ
- อำเภอสันทราย 1 ตำบล คือ ตำบลหนองหาร
สำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้กำหนดให้ปล่อยโคมลอยฯ ได้ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายน 2563 ระหว่างเวลา 19.00 – 01.00 น. โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 15 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ต้องแจ้ง ทชม. หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 7 วัน เพื่อจะได้ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงวันดังกล่าวมีสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินเพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ โดยมีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิก 25 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน 57 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 82 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2563)
ทั้งนี้ AOT และสนามบินทั้ง 6 แห่งได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของเครื่องบินและผู้โดยสาร จึงได้รณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย เพื่อประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยฯ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งยังได้ร่วมส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทงโดยการจัดซุ้มถ่ายภาพภายในอาคารผู้โดยสารอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 63)
Tags: AOT, ท่าอากาศยานไทย, ลอยกระทง, สนามบิน, สายการบิน