นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออก “สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน” โดยมีแนวคิดในการเป็นตัวเลือกที่ยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการ ให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่เป็น SMEs สามารถใช้โฉนดที่ดินมาเป็นหลักประกันการกู้เงิน วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่องให้กับกิจการ หรือนำไปไถ่ถอนจากสัญญาขายฝากที่ทำไว้ โดยมีวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 หรือจนกว่าวงเงินจะหมด
ทั้งนี้ “สินเชื่อ SMEs มีที่มีเงิน” จะให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยื่นขอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง และใช้ไถ่ถอนจากการขายฝากเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบที่ทำสัญญาขายฝากตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ต.ค.2563 โดยใช้เงื่อนไขหลักประกันสินเชื่อ คือ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไม่ต้องผ่านการตรวจเครดิตบูโร กำหนดคุณสมบัติผู้กู้ ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แต่ต้องประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี นำสินเชื่อไปใช้เพื่อหมุนเวียนธุรกิจ ไม่สามารถนำสินเชื่อไปใช้อุปโภคบริโภค โดยธนาคารจะพิจารณาให้กู้ได้สูงถึง 70% ของราคาประเมินที่ดินของราชการ ไม่พิจารณาภาระผู้กู้ และไม่วิเคราะห์รายได้ วงเงินสำหรับบุคคลธรรมดา ตั้งแต่ 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท นิติบุคคล 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 5.99% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และผู้กู้สามารถนำเงินต้นมาไถ่ถอนที่ดินคืนได้เมื่อพร้อม ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยผู้กู้สามารถเลือกได้ว่า จะให้หักดอกเบี้ยเลย หรือ ทยอยผ่อนชำระก็ได้ เมื่อครบ 3 ปี หากยังไม่สามารถชำระเงินต้นได้ ก็สามารถมาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้ต่อ
“ด้วยเงื่อนไขผ่อนปรนให้ลูกค้าได้กู้ง่าย ๆ เช่นนี้ เชื่อว่าสินเชื่อ SMEs มีที่มีเงิน จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถประคับประคองธุรกิจเดินหน้าต่อท่ามกลางความยากลำบากได้”
นายวิทัยกล่าว
นายวิทัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยออกสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ที่เน้นช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย แต่ยังมีผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมาก ที่ประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจภายใต้ความยากลำบาก ยังไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินตามมาตรการก่อนหน้านี้ได้ เพราะติดปัญหาธุรกิจขาดรายได้และมีภาระหนี้เดิม จึงจำเป็นต้องหันไปพึ่งการกู้นอกระบบรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะวิธีการ “ขายฝากที่ดิน” ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญการถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงมาก วงเงินกู้ต่ำกว่าราคาประเมินมาก และมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องสูญเสียที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม
“ธนาคารเตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 10,000 ล้านบาท เปิดให้ยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อจะหมด จึงจะพิจารณาวงเงินสินเชื่อเพิ่ม ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจ เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ขายฝากที่ดินต่อปีอยู่หลายหมื่นล้านบาท แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะอัตราดอกเบี้ยสูงมาก ธนาคารออมสินจึงอยากมีบทบาทเข้าไปช่วยเหลือสังคมในส่วนนี้”
นอกจากนี้ ในวันที่ 8-9 ธ.ค.63 ธนาคารเตรียมลงพื้นที่เปิดตัว “สมุยโมเดล” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งช่วงที่ผ่านมา จากการที่ธนาคารออมสินได้ลงพื้นที่สำรวจแล้วพบว่า ธุรกิจบนเกาะสมุย เช่น ชายหาดเฉวง ปิดตัวเกือบ 100% เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว ดังนั้น จึงต้องการเข้าไปนำร่องฟื้นเศรษฐกิจที่สมุย เพื่อเป็นต้นแบบให้พื้นทื่อื่น โดยการช่วยเหลือจะเป็นแบบบูรณาการ ทั้งการเติมเม็ดเงินสินเชื่อ, การพักหนี้, การจัดแพ็คเกจเพื่อกระตุ้นความต้องการให้คนเข้าไปท่องเที่ยว, การเปลี่ยนสินเชื่อเป็นบัตรสมนาคุณ และการช่วยเหลือเด็กให้ได้กลับไปเรียนหนังสือ เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 63)
Tags: SMEs, ธนาคารออมสิน, วิทัย รัตนากร, สมุยโมเดล, สินเชื่อ, ออมสิน