แม้ว่าจะเข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี 63 แต่การลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับให้ผลตอบแทน “ติดลบ” ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาหลังเผชิญกับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่ลุกลามกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยหลายบริษัทให้หดตัวมากที่สุดในรอบหลายๆปี
ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่าการลงทุนหุ้นในตลาดต่างประเทศหลังจากนี้จะเป็นทางเลือกที่ดี ช่วยกระจายความเสี่ยง สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดหุ้นไทยหรือไม่ ??
ข้อมูลรายชื่อกองทุนรวมเทคโนโลยี “Global Technology” ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 1 ปีย้อนหลังสูงสุด (ณ 21 ต.ค.63 : ที่มา Morningstar Thailand )
รายชื่อกองทุน | ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี (%) |
กองทุนเปิดกรุงศรีเวิล์ดเทคอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ ชนิดสะสมมูลค่า (KFHTECH-A) | 73.03 |
กองทุนเปิดกรุงศรีโลกบอลเทคโนโลยีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGTECHRMF) | 70.81 |
กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้ (KF-GTECH) | 69.96 |
กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-WTAI-A) | 62.59 |
กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล เทคโนโลยี อิควิตี้ ชนิดสะสมผลตอบแทน (TISTECH-A) | 60.60 |
พบกับคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศและข้อควรระมัดระวัง เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดต่างประเทศ สามารถติดตามรายละเอียดผ่านมุมมองกับ นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) ตามลิ้งก์ด้านล่าง
ทั้งนี้ รายการ “Wealth Me Please” จะนำข้อมูลความรู้ด้านการเงินและการลงทุน ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่านนำมาต่อยอดช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยตัวเอง พบกันทุกวันอังคาร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 63)
Tags: WealthMePlease, กองทุนรวม, การลงทุน, ตลาดหุ้น