นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวในการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า แม้มีข้อเรียกร้องจากผู้ชุมนุมให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง แต่ตนเองขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่ง เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจ และให้คำนึงถึงเสียงประชาชน 8.4 ล้านคนที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
“พล.อ.ประยุทธ์เป็นบุคคลที่เป็นเลิศในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด เป็นผู้ที่เข้มแข็งและมีความสามารถในการปกป้องและพิทักษ์และรักษาไว้ซึ่งสถาบัน อย่างไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้”
นายไพบูลย์ กล่าว
พร้อมเสนอให้ใช้การออกเสียงประชามติ ให้ประชาชนทั้งประเทศมาออกเสียงเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ต่อการจัดการชุมนุมในปัจจุบัน การออกเสียงประชามติทำได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 166 และอาจตราเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ก็ได้ ซึ่งหากการออกเสียงประชามติเกิดขึ้นจะเท่ากับเสียงคนทั้งประเทศได้มีส่วนร่วม ในการออกเสียงว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม และจะได้ข้อยุติซึ่งเป็นหลักการประชาธิปไตยทางตรง ไม่ใช่คนหลักหมื่นมาอ้างเสียงของประชาชนทั้งประเทศ
นายไพบูลย์ มั่นใจว่าประชาชนเสียงข้างมากกว่า 90% จะไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่จาบจ้วงสถาบันที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะมีการออกเสียงประชามติหรือไม่ แกนนำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันในขณะนี้ย่อมไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั้งประเทศอยู่แล้ว ในที่สุดจะพ่ายแพ้ไปอย่างแน่นอนในเร็ววันนี้ ตนขอให้ประชาชนอีกกว่า 60 ล้านคน ออกมาพิทักษ์ รักษาชาติ ศาสนา และสถาบัน ให้จงได้
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า หากมีพรรคการเมือง นักการเมือง ร่วมชุมนุมการปฏิรูปสถาบัน อาจเข้าข่ายถูกดำเนินคดีอาญาและนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองนั้นด้วย ขณะเดียวกันขอประณามการที่นักการเมืองอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษาในการแย่งชิงอำนาจรัฐ บั่นทอนความมั่นคงของชาติและสถาบัน เป็นเรื่องน่าละอาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 63)
Tags: การเมือง, ชุมนุม, ประชุมสภา, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พรรคพลังประชารัฐ, ม็อบ, ไพบูลย์ นิติตะวัน