นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยในโอกาสวันสถาปนา สทนช.ครบรอบปีที่ 3 ว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สทนช.ได้บูรณาการขับเคลื่อนแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน เป้าหมาย ตัวชี้วัด รวมทั้งการจัดทำแผนหลักและแผนปฏิบัติการตลอดจนได้มีการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบสำหรับการขยายผลให้บรรลุเป้าหมาย
ซึ่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ ได้เห็นชอบ 6 แผนงาน/แนวทาง คือ
- แผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำเสียชุมชน 20 ปี ตั้งเป้าจัดระบบบำบัดน้ำเสียทั้งหมด 780 แห่ง บำบัดได้ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)ต่อวัน ประชาชนได้ประโยชน์ 10 ล้านคน
- แผนปฏิบัติการโครงการเพื่อการพัฒนาปี 2562-2563 โดยก่อสร้างระบบประปา 20 แห่ง สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ 989,160 ลบ.ม.ต่อวัน ประชาชนได้ประโยชน์ 1 ล้านคน
- แผนหลักการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนสำคัญ 715 ชุมชน ประชาชนได้ประโยชน์ 7.82 ครัวเรือน
- แผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำต้นทุน จ.ภูเก็ต จำนวน 3 โครงการ
- แผนบูรณาการอุตุนิยมวิทยาเขตร้อนปี 2562-2563 เพื่อให้ระบบการพยากรณ์อากาศมีความแม่นยำทันสมัย
- แนวทางด้านการจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ โดยเร่งรัดก่อสร้าง ฟื้นฟู ตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสีย เก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียตามผู้ก่อมลพิษ พร้อมปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ สทนช.ยังได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญอีก 526 โครงการ โดยแบ่งเป็น โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 151 โครงการ โครงการที่ต้องเตรียมเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) 128 โครงการ และโครงการที่ต้องรายงานความก้าวหน้าต่อ กนช.ในภาพรวม 247 โครงการ พร้อมทั้งได้เสนอแผนงาน/โครงการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จำนวน 102 แผนงาน/ โครงการ วงเงินกว่า 14,223 ล้านบาท
โดยได้รับอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 แล้ว 31 โครงการ วงเงิน 882 ล้านบาท ที่เหลือ 71 โครงการอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม และบรรจุเข้าแผนเพื่อเสนอของงบประมาณวงเงิน 13,341 ล้านบาท ตลอดจนได้ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ปี 2563-2580 จำนวน 38 โครงการ วงเงิน 52,191 ล้านบาท ได้ปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น 872 ล้าน ลบ.ม. โดยในจำนวนนี้ สทนช.ได้กำกับขับเคลื่อนโครงการไปแล้ว 16 โครงการดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 จะได้น้ำเพิ่มขึ้น 253.60 ล้าน ลบ.ม.
เลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา สทนช.ยังได้บูรณาการจัดทำแผนปฏิบัติการและแผนงบประมาณด้านทรัพยากรน้ำและติดตามประเมินผลโครงการ ประกอบด้วย
- ผลดำเนินงานแผนบูรณาการน้ำปี 2563 จำนวน 3,621 โครงการ งบประมาณ 56,711 ล้านบาท
- งบกลางปี 2563 บูรณาการหน่วยงานจัดทำโครงการแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม และโครงการเร่งด่วนเพื่อการกักเก็บน้ำฤดูฝนปี 2563 โดย ครม.ได้อนุมัติงบกลางจำนวน 30,985 โครงการ วงเงิน 28,831 ล้านบาท และนายกรัฐมนตรีอนุมัติอีก 69 โครงการ 24,59 ล้านบาท
- จัดทำแผนปฏิบัติการด้านน้ำปี 2564 จำนวน 26,810 โครงการ วงเงิน 115,448 ล้านบาท
- ติดตามประเมินผลโครงการตามแผนบูรณาการด้านน้ำปีงบประมาณ 2563 และงบกลางปี 2563
- Thai Water Plan เป็นการพัฒนาระบบฐานข้อมูลแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแผนงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และพัฒนาระบบติดตามพร้อมทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 30,985 โครงการ วงเงิน 28,831 ล้านบาท
“การขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 และการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เป็นอีกผลงานที่ สทนช. ได้ดำเนินการในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดลุ่มน้ำ พ.ศ….. ได้ผ่านความเห็นชอบจากครม.แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย รวมทั้งได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำ 76 จังหวัด ร่างกฎกระทรวง 7 ฉบับ ระเบียบ/ประกาศอีก 4 ฉบับ นอกจากนี้ยังได้มีการสร้างกลไกการบริหารจัดการน้ำให้เป็นระบบ จัดตั้งและขับเคลื่อนกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ซึ่งได้ดำเนินแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ EEC การคาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงภัย พิจารณาปรับแผนการปลูกข้าวนาปรังให้เก็บเกี่ยวก่อนฤดูน้ำหลากเพื่อใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำหลาก จัดทำหลักเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง การเร่งรัดการแก้ปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ กำจัดวัชพืช จัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำต้นทุน ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานงบกลางและสร้างการรับรู้กับประชาชน นอกจากนี้ สทนช.ยังได้ให้ความสำคัญในการสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาและเป็นศูนย์กลางความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ลุ่มน้ำโขง ความร่วมมือด้านน้ำนานาประเทศ”
เลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย
สำหรับการก้าวขึ้นสู่ปีที่ 4 ในปี 2564 สทนช. จะดำเนินการขับเคลื่อนแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยเฉพาะด้านที่ 1 น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และด้านที่ 4 คุณภาพน้ำที่ต้องบูรณาการหน่วยงานเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการประปาหมู่บ้านในระยะ 20 ปี และเตรียมความพร้อมดำเนินการ รวมทั้งจะดำเนินการจัดแผนแม่บทลุ่มน้ำที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและศักยภาพของพื้นที่ โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดให้ชัดเจน จัดทำแผนปฏิบัติการระยะสั้น ระยะปานกลาง ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดของแผนแม่บทลุ่มน้ำ เสนอแผนแม่บทลุ่มน้ำ แผนปฏิบัติการ แผนงานตามนโยบายรัฐบาลและการขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ผ่านคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด และคณะกรรมการลุ่มน้ำ ให้เป็นไปตามขั้นตอนการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ พร้อมทั้งปรับปรุงการติดตาม ประเมินผลแผนงานและโครงการ โดยใช้เทคโนโลยี ผ่าน app Thai Water Plan ซึ่งมีกลไกการติดตามระดับพื้นที่ ระดับลุ่มน้ำ ผ่านคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด และคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อวิเคราะห์ สรุปรวบรวมเสนอต่อ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 63)
Tags: EEC, ทรัพยากรน้ำ, สทนช., สมเกียรติ ประจำวงษ์