สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลดความน่าสนใจของทอง
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 24.9 ดอลลาร์ หรือ 1.29% ปิดที่ 1,904.6 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 53.2 เซนต์ หรือ 2.11% ปิดที่ 24.709 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.9 ดอลลาร์ หรือ 1.11% ปิดที่ 884 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 31.60 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 2,395.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองยังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนลดความสนใจในทอง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.37% สู่ระดับ 92.9520 เมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น ยังกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 842,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าระดับ 1 ล้านรายเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันแล้ว หลังจากพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านรายเป็นเวลา 5 เดือน นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดีดตัวขึ้น 9.5% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 2.4% ในเดือนส.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ต.ค. 63)
Tags: ทองคำ, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง