นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2564 ที่ 2.085 ล้านล้านบาท แต่จะสามารถจัดเก็บได้ตามเป้าหมายหรือไม่คงต้องขอพิจารณาสภาพแวดล้อม
รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างการประเมิน แต่เบื้องต้นคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นในปีหน้า ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ยังไม่มีนโยบายให้ปรับลดเป้าหมายดังกล่าวลง
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ประเมินในเบื้องต้นว่าในปีงบประมาณ 2564 รายได้ส่วนหนึ่งจะหายไปประมาณ 1.2-1.5 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น การลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย จาก 3% เหลือ 1.5% ซึ่งประเมินว่ารายได้ในส่วนนี้จะหายไปประมาณ 1 แสนล้านบาท ส่วนมาตรการช้อปดีมีคืน จะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท รวมทั้งการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งทั้งหมดเป็นมาตรการที่ออกไปแล้วในปี 63 ยังไม่รวมมาตรการอื่น ๆ ที่คาดว่ารัฐบาลจะออกมาเพิ่มเติมในปีนี้
“รายได้ที่หายไปมาจากการที่กรมฯ มีมาตรการช่วยเหลือ โดยเฉพาะการลดหย่อนในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จะมีสัดส่วนสูง ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลก็จะหายไปในส่วนที่เกี่ยวกับมาตรการเรื่องการเลิกจ้าง การอบรมสัมมนา การกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล”
นายเอกนิติ กล่าว
ขณะที่ในปีงบประมาณ 2564 กรมฯ จะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีอี-เซอร์วิส เพิ่มอีกประมาณ 5 พันล้านบาท จากผู้ประกอบการแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ให้บริการด้านความบันเทิง ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านในชั้นคณะกรรมาธิการแล้วรอเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรที่จะเปิดประชุมในสมัยหน้า ซึ่งหากกฎหมายผ่าน ผู้ประกอบการจะมีเวลา 6 เดือนในการเตรียมความพร้อม
กฎหมายดังกล่าว กำหนดให้ผู้ประกอบการแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ให้บริการด้านความบันเทิง จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% ทันทีที่มีการเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการในประเทศ ที่ปัจจุบันหากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องยื่นจดเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยที่ผ่านมาจากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการต่างประเทศ ก็ยินดีที่จะดำเนินการ
อย่างไรก็ดี กรมสรรพากรได้ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) นำนวัตกรรมให้ความรู้ทางภาษี taxliteracy .academy มาให้ความรู้ผู้เสียภาษีแบบดิจิทัล เช่น กลุ่มแม่ค้าออนไลน์ เป็นต้น โดยสาระสำคัญ เช่น การให้ทดลองเล่นโดยเลือกรูปแบบและเส้นทางวางแผนภาษี สำหรับผู้ประกอบการผ่านการตอบคำถามง่าย ๆ ในผลิตภัณฑ์การให้ความรู้ภาษี และมีการอธิบายเปรียบเทียบระหว่างการเสียภาษีประเภทต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความรู้ผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง
สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 1.833 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ปรับใหม่ที่ 1.82 ล้านล้านบาท ซึ่งได้รวมผลกระทบของโควิด-19 ไปแล้ว แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 2.11 ล้านล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 63)
Tags: กรมสรรพากร, ภาษี, เศรษฐกิจไทย, เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ