ครม.ไฟเขียวปรับปรุงกม.ควบคุมก่อสร้างต้องมีมาตรการกันฝุ่น

ครม.ไฟเขียวปรับปรุงกฎหมายควบคุมการก่อสร้างอาคาร ต้องมีมาตรการป้องกันฝุ่นและมาตรฐานความปลอดภัย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการควบคุมอาคาร โดยกำหนดให้มีมาตรการป้องกันฝุ่นและได้มาตรฐานความปลอดภัย โดยเป็นการแก้ไขปรับปรุงกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2526) ออกตามความ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่บังคับใช้มาเป็นเวลานาน ประกอบกับรูปแบบและวิธีการก่อสร้างอาคารในปัจจุบันได้เปลี่ยนไป

คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ภาพ: thaigov.go.th)

“เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจากกฎกระทรวงฉบับเดิมในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันฝุ่นละออง ความปลอดภัยของนั่งร้าน ค้ำยัน ปั้นจั่นหอสูง (ทาวเวอร์เครน) และเดอร์ริกเครน (การใช้งานเพื่อรื้อถอนทาวเวอร์เครนลงจากตัวอาคาร) เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม” น.ส.รัชดา กล่าว

โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่

1.กำหนดให้ระหว่างการก่อสร้างอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป ต้องมีมาตรการป้องกันฝุ่นละออง เช่น ล้อมอาคารด้วยวัสดุหรืออุปกรณ์เพื่อป้องกันฝุ่นละออง การผสมคอนกรีตหรือการไสไม้ต้องทำในพื้นที่ปิดล้อม และทำความสะอาดล้อรถทุกชนิด ก่อนนำออกนอกบริเวณสถานที่ก่อสร้าง

2.กำหนดให้ระหว่างการก่อสร้างอาคารต้องมีการตรวจสอบความแข็งแรงและความปลอดภัยของนั่งร้านและค้ำยันที่ใช้รับน้ำหนักของการก่อสร้างอาคารที่สูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป หรือความสูงของนั่งร้านและค้ำยันตั้งแต่ 4 เมตรขึ้นไป หรือการก่อสร้างอาคารประเภทที่ใช้พื้นไร้คาน เมื่อใช้นั่งร้านและค้ำยันที่สร้างด้วยโลหะต้องรับน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 เท่า ส่วนนั่งร้านและค้ำยันที่สร้างด้วยไม้ต้องรับน้ำหนักไม่น้อยกว่า 4 เท่า และตรวจสอบความแข็งแรงความปลอดภัยของปั้นจั่น โดยเฉพาะปั้นจั่นหอสูงต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม

3.กำหนดให้นำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการก่อสร้างมาใช้บังคับแก่การรื้อถอนอาคารโดยอนุโลม

ทั้งนี้ ผู้ใดจะก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในเขตควบคุมอาคาร ต้องขออนุญาตหรือแจ้งต่อพนักงานท้องถิ่นและต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในร่างกฎกระทรวงนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top