WGE เคาะราคา IPO ที่ 2.30 บาท/หุ้น จองซื้อ 26-28 ต.ค.คาดเทรด SET 3 พ.ย.

นายวีรพัฒน์ เพชรคุปต์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.คันทรี่กรุ๊ป ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง (WGE) เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญ IPO จำนวน 160 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.30 บาท

ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน โดยคำนวณที่ค่า P/E ระดับ 13.53 เท่า กำหนดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2563 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563

ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ชื่อย่อในการซื้อขายคือ “WGE” เข้าเทรดในหมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง การเสนอขายหุ้น IPO ยังมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย บล.ไอร่า บล.เคทีบี (ประเทศไทย) และบล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย)

“การกำหนดราคา IPO ในที่ระดับ 2.30 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่ง WGE เป็นหุ้นรับเหมาฯที่มีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก จากความสามารถในการแข่งขันและมีศักยภาพที่เติบโตต่อไปอีกมากในอนาคต รวมถึงผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่โดดเด่น ขณะที่ทีมทำงานล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความมุ่งมั่นต่อผลสำเร็จในการทำงานอย่างมาก นอกจากนี้ภายหลังการโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น ปรากฎว่าได้รับความสนใจอย่างคึกคัก”

นายวีรพัฒน์ กล่าว

นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จุดเด่นของ WGE คือการเป็นหุ้นรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร ระบบการทำงานมีความคล่องตัวสูง มีความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้ดีและมีความแม่นยำ ขณะเดียวกันมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากมีทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญยาวนานกว่า 10 ปี

“หุ้น WGE เป็นหุ้นรับเหมาฯก่อสร้างที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ลงทุน เนื่องจากมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะมีงานในมือรอรับรู้รายได้(backlog)ราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ได้ในระยะยาว ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรก็อยู่ระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอีกด้วย”

นายสัมฤทธิ์ชัย กล่าว

นายเกรียงศักดิ์ บัวนุ่ม ประธานกรรมการบริหาร ของ WGE กล่าวว่า บริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในSET ไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน โดยเฉพาะการขยายฐานทุนให้สามารถรับงานในโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น และนำไปใช้ในการขยายพื้นที่คลังสินค้า และซื้อเครื่องจักร และ อุปกรณ์สำหรับใช้ในงานก่อสร้าง ส่งผลให้มีศักยภาพในการับงานมากขึ้น เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคต

“บริษัทมั่นใจว่าภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯมีศักยภาพในการทำธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น รวมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน และเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันทำให้บริษัทฯมีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ลดลง สนับสนุนความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้ผู้ลงทุนมีส่วนร่วมในการถือหุ้นและเติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯ”

นายเกรียงศักดิ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top