นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในการประชุม International Banking Seminar ว่า ทางธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายเงินเฟ้อหรือสัญญาณชี้นำล่วงหน้า (forward guidance) แม้ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ กำลังพิจารณากรอบการดำเนินงานของตนเอง
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนกรอบการดำเนินงาน เพื่อหาแนวทางยกระดับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เฟดได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ โดยเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น โดยเฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า “เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%
ด้าน ECB กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณานโยบาย โดยผู้กำหนดนโยบายบางรายมองว่าในอนาคตทาง ECB อาจมีการปรับเปลี่ยนโยบายคล้ายๆ กับของเฟด
ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นมีกรอบการดำเนินงานคล้ายๆ กับเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยของเฟดอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่น่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่านี้แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ต.ค. 63)
Tags: BOJ, ECB, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, ธนาคารกลางยุโรป, ธนาคารกลางสหรัฐ, ฮารุฮิโกะ คุโรดะ, เงินเฟ้อ, เฟด, เศรษฐกิจญี่ปุ่น, แบงก์ชาติญี่ปุ่น