ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ รวมทั้งการที่หลายประเทศในยุโรปประกาศมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,523.37 จุด เพิ่มขึ้น 16.14 จุด, +0.07%
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,347.65 จุด เพิ่มขึ้น 189.11 จุด, +0.78%
- ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,511.13 จุด ลดลง 2.82 จุด, -0.19%
ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 898,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 830,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 845,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยล่าสุดแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศความพร้อมที่จะเพิ่มวงเงินในมาตรการดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้ทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตได้สำเร็จ แต่นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของปธน.ทรัมป์ โดยเขาเห็นว่าวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์มีความเหมาะสมต่อการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับข่าวรัฐบาลอังกฤษประกาศยกระดับการเตือนภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงลอนดอนและเมืองลิเวอร์พูลตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ ซึ่งส่งผลให้มีการปิดสถานประกอบการบางประเภท ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศเคอร์ฟิวในกรุงปารีสและ 8 เมืองใหญ่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบ 2 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันศุกร์นี้ และจะต่อเนื่องไปเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 63)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย