นายอานนท์ นำภา พร้อมด้วยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ขึ้นประจำรถขยายเสียงนำมวลชนออกเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลตามที่ประกาศไว้ในเวลา 14.30 น.
“ไม่ปะทะ ไม่รุนแรง เราจะไปด้วยความสงบ”
นายอานนท์ ประกาศบนรถปราศรัย
ขบวนของคณะราษฎรแนวหน้าจะเป็นแถวของการ์ดและทีมเจรจากับเจ้าหน้าที่ที่เปิดทางการเคลื่อนขบวน โดยมีมวลชนหลายพันคนเดินชูสามนิ้วตามมาในแถวถัดไปนำหน้าขบวนรถบรรทุกใหญ่ติดตั้งเครื่องขยายเสียงที่มีแกนนำอยู่บนรถ ตามมาด้วยรถบรรทุกขนาดย่อมลงมา ซึ่งแกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมค่อย ๆ เคลื่อนขบวนเต็มพื้นที่ 5 ช่องจราจรของถนนราชดำเนินกลางไปทีละก้าวไม่ต้องรีบ ระหว่างทางหากมีการยั่วยุก็ขอให้อดทนสงบนิ่ง ยิ้ม และ ชู 3 นิ้วให้ ขณะที่ฝนกำลังเริ่มโปรยปรายลงมาเล็กน้อย
กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงจุดเจรจาบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดานอยู่พร้อมโล่ประจำตัว แต่ไม่มีอาวุธอื่น โดยหลังจากแนวของตำรวจควบคุมฝูงชนก่อนที่จะเข้าสู่ถนนราชดำเนินนอกได้มีการนำรถเมล์มาปิดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมสามารถเคลื่อนเข้าสู่ถนนราชดำเนินนอกได้ เหลือเพียงช่องทางตรงไปทาง ถ.นครสวรรค์ ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการเจรจากับแกนนำกลุ่มคณะราษฎรว่าผู้ชุมนุมจะยอมเลี่ยงไปใช้เส้นทาง ถ.นครสวรรค์ ผ่านทางนางเลิ้ง แทนหรือไม่
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงบริเวณแนวกั้นสะพานผ่านฟ้าลีลาศขอให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรเคลื่อนกลับไปยังที่มั่นแรกบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยระบุว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงทำความเข้าใจและขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขอบเขตของกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 โดยพยายามปฏิบัติด้วยความนุ่มนวล อดทดอดกลั้น หลีกเลี่ยงเผชิญหน้า แต่ก็ยังมีความพยายามเคลื่อนขบวนผ่านแนวกั้นในจุดต่าง ๆ
เจ้าหน้าที่เข้าใจและให้ความเคารพการใช้สิทธิเสรีภาพการแสดงออกโดยสงบปราศจากอาวุธ ตามสิทธิของพลเมืองที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ แต่การใช้สิทธิจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอยู่ภายใต้กำหนดหลักเกณฑ์การชุมนุมสาธารณะ สุขอนามัย และความสงบของประชาชนที่ใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกัน ต้องไม่กระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพ และความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น จึงขอผู้ร่วมชุมนุมเคลื่อนย้ายกลับไปชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเช่นเดิม เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะคอยดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ทุกคน
ระหว่างเดินเท้าแกนนำได้ปราศรัยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าขัดขวางหรือสร้างสถานการณ์ใดๆ และอย่าใช้กำลัง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมมาแบบสันติ ไม่มีอาวุธ แต่ผู้ชุมนุมมาร่วมเป็นจำนวนมาก ขอให้เจ้าหน้าที่ใจเย็น ควบคุมสถานการณ์ตามหลักเหตุผล โดยในระหว่างเดินท้ามีการชู 3 นิ้ว จนมาถึงจุดสกัดแรก คือ สะพานผ่านฟ้าลีลาศได้ส่งตัวแทนไปเจรจากับทางเจ้าหน้าที่เพื่อขอเปิดทางให้มวลชนผ่านทางไป
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งกำลังสกัดในจุดแรกได้เปิดเส้นทางให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางข้ามสะพาน โดยยินยอมใช้เส้นทางถนนนครสวรรค์เพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาลแล้ว
หลังจากออกเดินไปบนถนนนครสวรรค์ไปจนถึงตลาดนางเลิ้ง มวลชนได้หยุดขบวนอีกรอบเพื่อเจรจาขอเปิดทางในจุดที่ 2 บริเวณสะพานเทวกรรม แต่ใช้เวลาเจรจาค่อนข้างนาน และเพนกวินได้ประกาศบนรถปราศรัยว่าให้เวลาเจ้าหน้าที่อีก 5 นาที เพื่อให้เปิดทางให้ หากไม่อยากกระทบกระทั่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เปิดทางให้ม็อบเดินทางข้ามคลองผดุงกรุงเกษมมาแล้ว แต่ยังมีจุดสกัดที่ 3 ด้านหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะนี้แกนนำประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมนั่งพักรอการเจรจาก่อน
กลุ่มคณะราษฎร ได้เคลื่อนมวลชนผ่านแยกเทวกรรมบน ถ.นครสวรรค์ไปแล้ว และหยุดรอการเจรจากับเจ้าหน้าที่บริเวณใกล้แยกนางเลิ้ง หน้า ธ.ก.ส.เพื่อรอเลี้ยวซ้ายตรงแยกนางเลิ้งเข้าไปยังถนนพิษณุโลก จุดนี้มีรถของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนขวางเป็นแนวกั้นอยู่ 4 คัน โดยผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าเขย่าตัวรถเพื่อผลักดันรถคันดังกล่าวไม่ให้ขวางทาง แต่แกนนำเรียกให้มวลชนออกจากรถบัสกลับมารวมต้วตามเดิม ซึ่งหากผู้ชุมนุมผ่านจุดนี้ไปได้ก็จะเข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาลได้มากขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่ารถบัสของ ตชด.ทั้ง 4 คันจะจอดขวางขบวนของผู้ชุมนุมไว้จนกว่าขบวนเสด็จจะเคลื่อนผ่านใกล้จุดนี้ไป ซึ่งทีมเจรจาของกลุ่มผู้ชุมนุมกำลังพยายามเข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้เปิดทาง
ขณะที่บริเวณสะพานอรทัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 1 กองร้อย พร้อมรั้วลวดหนามกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเล็ดลอดเข้าไปใกล้ทำเนียบรัฐบาลได้
หลังจากใช้เวลาการเจรจาในจุดที่ 3 ค่อนข้างนานกว่า 1 ชั่วโมง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนยอมถอยรถบัสที่จอดขวางขบวนรถแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมออกไปแล้ว สร้างความพอใจให้กลุ่มผู้ชุมนุม แต่แกนนำยังขอให้มวลชนนั่งปักหลักรอให้เจ้าหน้าที่ถอยออกจากพื้นที่ไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าจะขยับแนวแผงเหล็กถอยไปทีละ 50 เมตร
ด้านนางสาวปนัสยา หรือ รุ้ง ปราศรัยบนรถขยายเสียงได้ขอให้ผู้หญิงทุกคนที่มาร่วมชุมนุมลุกขึ้นไปเป็นแนวหน้าของขบวน โดยยืนตั้งแถวอยู่ข้างหลังการ์ด และเตรียมดอกกุหลาบไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่ใส่เสื้อเหลืองที่อยู่หลังแนวกั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 63)
Tags: การเมือง, คณะราษฎร, ชุมนุม, ชุมนุมทางการเมือง, ชุมนุมใหญ่, ทำเนียบรัฐบาล, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, พริษฐ์ ชิวารักษ์, ม็อบ, อานนท์ นำภา