รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่ปล่อยตัว 21 แกนนำการชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรพร้อมมวลชนผู้สนับสนุน ซึ่งนำโดย ไผ่ ดาวดิน ที่ถูกควบคุมตัวจากสถานที่ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวานนี้ พร้อมตั้ง 10 ข้อหาการกระทำความผิด โดยจะนำตัวยื่นฝากขังต่อศาลในช่วงบ่ายวันนี้
โดยข้อหาทั้ง 10 ข้อ ได้แก่ การร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งการสั่งการตามหน้าที่ที่กฎหมายอนุญาตไว้, การจอดรถ หรือขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตั้งวางหรือกองวัตถุใดบนถนนตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด, มีการชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค, ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัย ความสะดวกทางจราจร, ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมทำให้เสียทรัพย์ เป็นต้น
“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามแจ้ง ได้มีการเตือน และเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล นอกจากนี้ การชุมนุมยังทำให้เกิดความแออัด ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคติดต่อร้ายแรง หรือโรคระบาดได้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และที่สำคัญยังเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ดำเนินการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด 21 ราย โดยส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ มีการแจ้งข้อหาทั้งสิ้น 10 ข้อหา”
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช.กล่าว
พร้อมระบุว่า เช้านี้จะนำตัวผู้ถูกจับกุมทั้ง 21 ราย ไปยื่นฝากขังต่อศาล ขณะที่ 1 ในผู้ถูกจับกุมเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งจะต้องถูกแยกฝากขัง
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น รองโฆษก สตช. กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน จะรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีผู้ใดกระทำความผิดในข้อกฎหมายใดบ้าง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง และในข้อหาใดบ้าง แต่ได้มีการบันทึกข้อมูลและเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว
สำหรับการจัดวางกำลังเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ในภาพรวมได้มีการจัดกำลังไว้รวมทั้งสิ้น 99 กองร้อยควบคุมฝูงชน ซึ่งเป็นการจัดกำลังตามระเบียบปฏิบัติและตามขั้นตอนปกติ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย
“การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราได้ยึดถือไม่เพียงหลักนิติศาสตร์อย่างเดียวในการดำเนินการ ในการบังคับใช้กฎหมายจะคำนึงถึงการใช้หลักรัฐศาสตร์ควบคู่ไปด้วย อะไรที่ทำแล้วจะทำให้เหตุการณ์บานปลาย ก็คงต้องพิจารณาให้รอบคอบ อยากให้ท่านทุกคนตระหนักว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่มผู้มาชุมนุม ต่างคนต่างทำหน้าที่”
รองโฆษก สตช.กล่าว
ด้านเพจเฟซบุ๊ก เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH ออกแถลงการณ์ ประณามการควบคุมตัวประชาชน จากเหตุการณ์ที่ ไผ่ จตุภัทร, แอมมี่ The Bottom Blues และนักศึกษาประชาชนอีก 19 คน รวมทั้งสิ้น 21 คน ถูกอุ้ม ถูกลากตัว เพื่อควบคุมขึ้นรถตำรวจ โดยไม่มีหมายจับจากคำสั่งศาล จากกรณีที่ประชาชนคณะราษฎรภาคอีสานเดินทางมาเมื่อวานนี้เตรียมตัวตั้งเต็นท์ปักหลักพักค้างคืน บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อร่วมชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เทศกิจก็พังเต็นท์พักค้างคืนของประชาชน การกระทำรุนแรงต่อผู้ชุมนุมครั้งนี้ มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ
เยาวชนปลดแอกขอประณามทุกการกระทำของตำรวจและผู้สั่งการ และขอให้เร่งดำเนินการปล่อยตัวเพื่อนเราโดยเร็วที่สุด และจะต้องคืนสิทธิเสรีภาพของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอธิปไตยในการชุมนุมทางการเมืองโดยปราศจากการใช้กำลัง ความรุนแรง และคดีความประชาชนไม่มีอาวุธ เรามีเพียงมือเปล่า ประชาชนไม่ใช่ศัตรูด้วยความเคารพต่ออำนาจอธิปไตย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 63)
Tags: กฤษณะ พัฒนเจริญ, การเมือง, คณะราษฎร, ชุมนุม, ตำรวจ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, เยาวชนปลดแอก