บมจ.พีรพัฒน์ เทคโนโลยี (PRAPAT) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น ที่ราคา 1.50 บาท จากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เปิดให้จองซื้อในวันที่ 12, 14-15 ต.ค.63 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 20 ต.ค.นี้ โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทแต่งตั้ง บล.โนมูระ พัฒนสิน เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ในครั้งนี้ พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 6 บริษัท ได้แก่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย), บล.โกลเบล็ก, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย), บล.เคทีบี (ประเทศไทย) และ บล.ทรีนีตี้
สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 11.90 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.62-30 มิ.ย.63 ซึ่งมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทเท่ากับ 42.85 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 340,000,000 หุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท เท่ากับ 0.1260 บาท
บริษัทกำหนดสัดส่วนการเสนอขายหุ้น IPO ดังนี้ 1.เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 80,000,000 หุ้น 2. เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย 10,000,000 หุ้น และ เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 10,000,000 หุ้น
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM กล่าวว่า PRAPAT จะเข้าจดทะเบียนใน mai เพื่อระดมทุนรองรับการขยายธุรกิจ “Cleaning Hygiene Solutions” ของบริษัท นอกจากนี้การที่ PRAPAT ได้ทำการเดินสายเพื่อนำเสนอข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุน 15 จังหวัด และนำเสนอข้อมูลแก่นักวิเคราะห์ เจ้าหน้าที่การตลาด ณ ห้องค้าบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี
ด้านนายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ PRAPAT กำหนดราคาหุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็น P/E Ratio ที่ประมาณ 11 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับสภาวะของตลาดปัจจุบัน
นายสืบพงศ์ เกตุนุติ รองประธานกรรมการบริษัทและผู้ก่อตั้ง PRAPAT กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจ “Cleaning Hygiene Solutions” รวมถึงการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าของบริษัท ด้วยการลงทุนในระบบบัญชีและระบบควบคุมการผลิต และการลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างมั่งคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น หลังการเข้าซื้อขายใน mai ในอนาคตอันใกล้
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีน้เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกลุ่มโรงแรมที่เริ่มฟื้นตัวได้จากการสนับสนุนของภาครัฐให้มีการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ทำให้สัดส่วนรายได้หลักที่ราว 50% คือกลุ่มโรงแรมมีการฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้เต็มที่ในปี 64 โดยเป็นผลมาจากการที่คาดว่าจะมีวัคซีนโควิด-19 ออกมาในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้นักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น และเป็นสิ่งที่ช่วยหนุนให้ผลประกอบการเติบโตได้ดียิ่งขึ้นและเร็วกว่าช่วงก่อนหน้านี้
“ที่ผ่านมาเราเติบโตมาตลอด ได้รับผลกระทบบ้างจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้เงินจากการขาย IPO ครั้งนี้ จะเติบโตได้มากขึ้นและรวดเร็วมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันเรายังมีโอกาสในการเติบโตไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาด CLMV ที่เราจะขยายไปทจากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพียง 10% เท่านั้น”
นายสืบพงศ์ กล่าว
ปัจจุบัน PRAPAT เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ โดยบริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ ภายใต้ตราสินค้าหลัก “PEERAPAT” รวมทั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมการให้บริการ (Hospitality Industry) โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่าย แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ต.ค. 63)
Tags: IPO, PRAPAT, พีรพัฒน์ เทคโนโลยี, หุ้นไทย, โนมูระ พัฒนสิน