ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน หลังทรัมป์เบรกมาตรการกระตุ้น ศก.

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้คณะบริหารของทำเนียบขาวระงับการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กับพรรคเดโมแครต ไปจนถึงหลังวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,395.31 จุด ลดลง 38.42 จุด, -0.16% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,091.97 จุด เพิ่มขึ้น 111.32 จุด, +0.46% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,503.03 จุด ลดลง 6.44 จุด, -0.43%

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความว่า “ผมได้สั่งการให้คณะบริหารของผมระงับการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กับพรรคเดโมแครต ไปจนถึงหลังวันเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อผมชนะการเลือกตั้ง เราก็จะผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก และภาคธุรกิจขนาดเล็ก”

การตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ถือเป็นการดับความหวังของนักลงทุน และยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ พยายามเดินหน้าเจรจาต่อรองกันเกี่ยวกับวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่คณะบริหารของทำเนียบขาวเสนอวงเงิน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ การตัดสินใจดังกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากสหรัฐยังคงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น มิฉะนั้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

 

Tags: ,
Back to Top