นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงข้อเสนอให้แบนนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดว่า สถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นว่าประเทศที่แบนนักท่องเที่ยวจีน ไปจนถึงประเทศที่ใช้มาตรการป้องกันโรคในระดับสูงสุดก็ไม่สามารถหยุดยั้งการติดเชื้อได้
ทางที่ดีคือต้องพัฒนาระบบการคัดกรอง และรักษาภายในประเทศ ซึ่งประเทศไทยทำงานหนักและได้รับการยอมในรับระดับนานาชาติว่ามีระบบการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ
“ขอให้มั่นใจการทำงานของกระทรวงฯ การตัดสินใจของเราจะส่งผลบวกต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนในอนาคตอย่างแน่นอน”
นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้เริ่มมีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนเป็นวงกว้างและมีการติดต่อจากคนสู่คน มีการแพร่ระบาดลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศแล้ว
การแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาฯ ดังกล่าวเพื่อให้การดำเนินการสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรคและอธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธาน, นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข และอดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค มีประสบการณ์ในการคลี่คลายปัญหาวิกฤตไข้หวัดนก และ นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“ท่านเหล่านี้มีความรู้ความสามารถ และอาสาเข้ามาช่วยงานภาครัฐ เป็นเรื่องน่าชื่นชมที่เราจะได้ประสบการณ์ของคนเหล่านี้มาแก้ปัญหา”
นายอนุทิน กล่าว
สำหรับรายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ ขณะนี้ผู้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 9 ราย รวมสะสม 25 ราย โดยตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-5 ก.พ.63 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 595 ราย คัดกรองจากสนามบิน 49 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 546 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 202 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 393 ราย โดยวันที่ 5 ก.พ.63 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 46 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 63)
Tags: กระทรวงสาธารณสุข, นักท่องเที่ยวจีน, อนุทิน ชาญวีรกูล, ไวรัสโคโรนา