เบเกอร์ แอนด์ แมคเคนซี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่อังกฤษประสบความล้มเหลวในการทำข้อตกลงการค้าหลังการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อาจทำให้อังกฤษสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนเงินสูงถึงปีละ 1.34 แสนล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.74 แสนล้านดอลลาร์) เป็นเวลา 10 ปี
รายงานชื่อ “The Future of UK Trade: Merged Realities of Brexit and COVID-19” ซึ่งจัดทำโดยเบเกอร์ แอนด์ แมคเคนซี ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษลดลง 2.2% จากระดับก่อนการแพร่ระบาด ส่วนในกรณีที่มีการทำข้อตกลงการค้าหลัง Brexit นั้น GDP อังกฤษมีแนวโน้มลดลง 3.1% ในระยะยาว แต่หากไม่มีข้อตกลงดังกล่าวแล้ว GDP อังกฤษมีแนวโน้มลดลงอย่างหนักถึง 3.9% ในระยะยาว
ขณะเดียวกัน รายงานยังระบุด้วยว่า รายได้จากการส่งออกอาจลดลง 6.3% ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ผลิตในอังกฤษ และด้วยการที่ผลกระทบจาก Brexit มีแนวโน้มจะสูงมาก รัฐบาลจึงจำเป็นต้องใช้ทุกวิธีเพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านของ Brexit ซึ่งอังกฤษจะยังคงดำเนินการตามกฎระเบียบการค้าของอียูนั้น จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ โดยที่ผ่านมา อังกฤษและอียู ยังไม่สามารถทำข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าระหว่างกันได้
นอกจากนี้ เมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา EU ได้เคยออกมาขู่แล้วว่าจะยื่นฟ้องต่อศาล หลังไม่พอใจที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของอังกฤษได้ลงมติรับร่างกฎหมาย Internal Market Bill โดย EU ระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาที่ขัดต่อข้อตกลง Brexit ที่อังกฤษทำไว้กับ EU
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (5 ต.ค. 63)
Tags: Brexit, EU, GDP อังกฤษ, สหภาพยุโรป, อังกฤษ, เบเกอร์ แอนด์ แมคเคนซี, เศรษฐกิจอังกฤษ