วุฒิสภาสหรัฐลงมติคัดค้านการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง พร้อมกับประกาศให้ปธน.ทรัมป์พ้นผิดทั้ง 2 ข้อกล่าวหา ซึ่งได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส โดยการลงมติดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสมาชิกวุฒิสภาได้ทำการอภิปรายญัตติถอดถอนดังกล่าวในวันพุธตามเวลาสหรัฐ
ทั้งนี้ วุฒิสภามีมติด้วยคะแนนเสียง 52 ต่อ 48 ปฏิเสธข้อกล่าวหาการใช้อำนาจในทางมิชอบ และลงมติด้วยคะแนนเสียง 53 ต่อ 47 ปฏิเสธข้อกล่าวหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส พร้อมประกาศให้ปธน.ทรัมป์พ้นผิดใน 2 ข้อกล่าวหาดังกล่าว
นายจอห์น โรเบิร์ตส์ ผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐ เป็นผู้ประกาศผลการลงมติในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า คะแนนเสียงสนับสนุนการถอดถอนปธน.ทรัมป์มีไม่มากพอในวุฒิสภา จึงทำให้ไม่สามารถเอาผิดต่อปธน.ทรัมป์ และไม่สามารถขับปธน.ทรัมป์พ้นจากตำแหน่งได้
อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า วุฒิสภาจะลงมติคัดค้านการถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา จึงส่งผลให้พรรคเดโมแครตประสบความพ่ายแพ้ในความพยายามถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.เห็นชอบต่อการถอดถอนปธน.ทรัมป์ใน 2 ข้อหาดังกล่าว ซึ่งทำให้ปธน.ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 3 ที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรลงมติถอดถอนอย่างเป็นทางการ และเผชิญกับการไต่สวนในวุฒิสภา
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ ซึ่งหากนายไบเดนถูกสกัดให้ออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 63)
Tags: Donald Trump, ถอดถอน, สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์