เงินบาทเปิด 31.60 ต่อดอลล์ แข็งค่าจากวานนี้ นลท.รอดูมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.60 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.67 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการทางการคลังของสหรัฐเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโควิด-19

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ หลังนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นจากความหวังเรื่องมาตรการคลังของสหรัฐ”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55 – 31.70 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (30 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.26780% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.32677%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 105.50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 105.68 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1734 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1710 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.6640 บาท/ดอลลาร์
  • สถาบันคุ้มครองเงินฝากมั่นใจฐานะแบงก์ไทยยังแกร่ง สะท้อนผ่านเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงกว่า 19.2% ขณะยอดเงินฝากพุ่งต่อเนื่อง เผยครึ่งปีแรกโต 8% เหตุคนไม่มั่นใจสถานการณ์โควิด เลือกเก็บเงินสดไว้กับแบงก์
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาล 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.2562-ส.ค.2563) ว่า จัดเก็บได้รวม 2.15 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 293,043 ล้านบาท หรือ 12.0% เนื่องจากโควิด-19
  • กรมเจรจาการค้าเดินหน้าศึกษาฟื้นเอฟทีเอไทย-อีเอฟทีเอ ให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ ยันช่วยรักษาโอกาสการแข่งขันของสินค้าและบริการของไทย หลังหลายประเทศอาเซียนมีแล้ว ขณะที่เวียดนามและมาเลเซียกำลังเจรจา หนุนดึงลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูง
  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมกับสำนักงานอีอีซี (สกพอ.) ได้เชิญผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่อีอีซี 16 ราย ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน เครื่องจักรกลขั้นสูง เคมีภัณฑ์ขั้นสูง ประชุมกับนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสตรวจเยี่ยมพื้นที่เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากนักลงทุนในพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังจังหวัดชลบุรี
  • “แอตต้า” เสนอให้รัฐบาลยอมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากจีน ไต้หวัน เข้ามาเที่ยวในไทย แบบไม่กักตัว แต่ให้มีมาตรการดูแลอย่างเข้มงวดแทน ในเดือนธ.ค.นี้ กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปีใหม่และตรุษจีนปีหน้า คาดว่าจะมีคนเข้ามาในไทยแสนคนต่อเดือนสร้างรายได้ 5,000 ล้านบาท
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 749,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 650,000 ตำแหน่ง โดยได้รับแรงหนุนจากภาคก่อสร้าง ภาคขนส่ง และภาคสาธารณูปโภค
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2563 โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 31.4% ซึ่งแม้ว่าเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี แต่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ยังดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งระบุว่า GDP หดตัวลง 31.7% และดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งระบุว่า GDP หดตัวลง 32.9%
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐมีความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาด นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งและคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 8.2% ในเดือนก.ย.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนส.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (1 ต.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top