บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ (JR) เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.32% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO แบ่งเป็น เสนอขายต่อประชาชนจำนวน 184,000,000 หุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ 16,000,000 หุ้น พร้อมทั้งนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายในปีนี้ โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)
JR ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้างและติดตั้งงานระบบไฟฟ้า (Electrical Power System) และระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Telecommunication and Information Technology System) แบบครบวงจร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการจำหน่ายอุปกรณ์ (Supply) และให้บริการบำรุงรักษา (Maintenance) สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ JR ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) เวอร์ชั่นแรกเมื่อเดือน พ.ค.63 ระบุว่าจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ต่อมาได้ปรับไฟลิ่งในเดือน ส.ค.63 เป็นการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น หลังจากปรับราคาพาร์เป็น 0.50 บาท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า จุดเด่นของ JR คือเป็นผู้ให้บริการงานวิศวกรรมที่สามารถให้บริการทั้งงานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการพื้นฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและระบบ ICT ของประเทศ
ณ สิ้นไตรมาส 2/63 บริษัทมีงานในมือที่ลงนามในสัญญาแล้ว (Backlog) ประมาณ 6,400 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ส่งผลให้รายได้ของ JR จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและแน่นอนในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ โดยการบริหารงานด้วยความระมัดระวังทำให้ JR มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest Bearing D/E Ratio) อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 0.2 เท่ามาโดยตลอดตั้งแต่ปี 60 ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะการเงินของบริษัทฯ และรองรับการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน
“หุ้นตัวนี้เราให้เป็นหุ้นระดับ 5 ดาวนะ เพราะเหมือนเครื่องบินที่กำลังจะเทคออฟ มีงานในมือจำนวนมากที่จะรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนปี 66 ซึ่งจะทำให้รายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในปีนี้ไปจนถึงปี 66”
นายสมภพ กล่าว
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JR เปิดเผยว่า บริษัทยังมีโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การทำงานเปลี่ยนแปลงไปเป็นการทำงานจากบ้านมากขึ้น การทำงานผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ต้องมีการพัฒนาระบบโทรคมนาคมให้เป็นระบบ 5G เพื่อรองรับการพัฒนาให้เป็นไปตามนโยบาย 4.0 ของภาครัฐ
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาด้านพลังงานต่างๆ เพื่อรองรับการขยายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รถไฟเชื่อมสามสนามบิน รวมไปถึงโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินอีกจำนวนมาก ที่บริษัทมีโอกาสที่จะเข้ารับงานใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะสามารถรับงานได้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทอยู่ระหว่างยื่นเสนองานใหม่อยู่มูลค่า 500-800 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรู้ผลการเสนองานต่อเนื่อในข่วงปลายปีนี้ สำหรับ Backlog ปัจจุบันที่มีราว 6,400 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 547 ล้านบาท ซึ่งจะผลักดันให้รายได้แตะ 1,000 ล้านบาทในปี 63 และในปี 64 จะรับรู้รายได้ราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้รายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ปัจจุบัน JR มีทุนจดทะเบียนจำนวน 380 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 280 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 560 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้บริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 380 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 760 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ภาพรวมผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ในปี 60 บริษัทฯมีรายได้รวม 967.60 ล้านบาท ปี 61 อยู่ที่ 934.17 ล้านบาท ปี 62 อยู่ที่ 848.90 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปี 63 อยู่ที่ 464.78 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 41.25 ล้านบาท 82.93 ล้านบาท 60.75 ล้านบาท และ 29.93 ล้านบาท ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 63)
Tags: IPO, JR, SET, ก่อสร้าง, จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ, ตลาดหลักทรัพย์, ฟินันเซีย ไซรัส, ระบบไฟฟ้า, สมภพ กีระสุนทรพงษ์, หุ้นสามัญเพิ่มทุน, เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้, เทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม