นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ในเครือ SPALI มีโอกาสพิจารณาขายหุ้น บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) ที่ถืออยู่ในสัดส่วน 4.02% แต่คงต้องรอการตัดสินใจของคณะกรรมการบริษัท โดยหากขายหุ้น MK ก็จะทำให้ SPALI มีกระแสเงินสดเข้ามา
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีความแข็งแกร่งในด้านฐานะการเงินอยู่แล้ว และการถือหุ้นใน MK ถือเป็นเพียงถือเพื่อลงทุนเท่านั้น ดังนั้น คงต้องให้ทางคณะกรรมการบริษัทพิจารณาถึงความคุ้มค่าของราคาที่ทางบมจ.ฟินันซ่า (FNS) ทำคำเสนอซื้อหุ้น (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ก่อนตัดสินใจ
ส่วนหุ้น MK ที่ถืออยู่ในนามส่วนตัว 12.22% ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจขายให้กับ FNS หลังจากวานนี้ FNS ประกาศทำเทนเดอร์ฯ หุ้น MK ที่ราคาเสนอซื้อ 3.10 บาท/หุ้น เนื่องจากเป็นราคาต่ำกว่าราคาเสนอซื้อที่ทาง SPALI ตั้งไว้เมื่อปี 61 ที่ 4.10 บาท/หุ้น ทำให้ต้องขอเวลาพิจาราณาก่อนว่าหากขายไปแล้วจะคุ้มหรือไม่
นายประทีป กล่าวว่า การที่ FNS เข้าทำเทนเดอร์หุ้น MK มองว่า FNS มองเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของ MK ที่มีการกระจายรายได้ในธุรกิจที่อยู่อาศัย ธุรกิจสนามกอล์ฟ ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า และธุรกิจด้านสุขภาพที่เพิ่งเปิดตัวไป รวมไปถึงศักยภาพของที่ดินในมือของ MK ที่จะนำมาพัฒนาโครงการใหม่ต่อยอดได้ ทำให้ MK มีความน่าสนใจดึงดูดให้ FNS ตัดสินใจเข้ามาลงทุนเต็มตัว
“ราคาที่เขาเสนอซื้อมาตอนนี้ต่ำกว่าตอนที่ศุภาลัยเสนอซื้อ ซึ่งเราก็ต้องประเมินความคุ้มค่าของราคาที่เขาตั้งกับต้นทุนของเรา ถ้าคุ้มค่าก็สามารถขายได้ แต่ตอนนี้ในส่วนของผมที่ถือ 12% ยังไม่มีแนวคิดจะขาย เพราะตอนแรกเข้ามาถือหุ้นเพราะอยากช่วยพาบริษัทพี่ชายไปต่อหลังจากที่ลูกๆเขาเลิกทำแล้ว แต่ตอนนั้นที่ศุภาลัยจะทำเทนเดอร์ฯก็ไม่ประสบความสำเร็จ ตอนนี้ FNS คงเห็นศักยภาพของ MK จึงอยากลุยเข้ามาเต็มตัว
ส่วนหุ้นที่ศุภาลัยถือ 4% ก็จะพิจารณาความคุ้มค่าเหมือนกันก่อนตัดสินใจ ซึ่งหากศุภาลัยขายหุ้นออกไปก็ได้กระแสเงินสดเข้ามาเติมให้บริษัท” นายประทีป กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 63)
Tags: MK, SPALI, ประทีป ตั้งมติธรรม, มั่นคงเคหะการ, ศุภาลัย, หุ้นอสังหา, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์