ดัชนีเชื่อมั่นอนาคตศก.ภูมิภาคก.ย.ดีขึ้น เว้นกทม.ลงทุน-จ้างงานยังชะลอ

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thailand Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนกันยายน 2563 ว่า แนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค

โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคเหนือและภาคตะวันออกในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมจากมาตรการต่างๆของภาครัฐและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง อย่างไรก็ตามดัชนีแนวโน้มด้านการลงทุนและการจ้างงานของกทม. และปริมณฑลยังชะลอตัว

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 62.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่แล้วโดยมีภาคเกษตรและภาคบริการเป็นปัจจัยสนับสนุนเนื่องจากปริมาณผลผลิตการเกษตรมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น อาทิ ข้าวยางพาราและสับปะรดเป็นต้น นอกจากนี้ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มคลี่คลาย ร้านค้าเริ่มทยอยเปิดกิจการและเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

ภาคเหนือ

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 60.3 สะท้อนถึงการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเนื่องจากเป็นช่วงที่พืชผลทางการเกษตรหลายชนิดออกสู่ตลาด เช่น ข้าวนาปีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชาและกาแฟเป็นต้น และทำให้มีวัตถุดิบป้อนโรงงานมากขึ้นด้วย

ภาคตะวันออก

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 60.0 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าเช่นกันโดยมีภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก เนื่องจากปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้นทำให้เกษตรกรเพาะปลูกข้าวเพิ่มขึ้นและมีการลงทุนในการผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มคลี่คลายจึงคาดว่าจะมีความต้องการซื้อสินค้าที่สูงขึ้น

ภาคตะวันตก

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ 57.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ขยายตัวโดยมีภาคเกษตรและภาคการจ้างงานเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก เนื่องจากคาดว่าปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่จะส่งออกอาหารทะเลได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับแนวโน้มการจ้างงานภาพรวม 6 เดือนข้างหน้ายังอยู่ในเกณฑ์ดีตามการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคธุรกิจต่างๆทั้งการช่วยเหลือด้านเงินทุนและกระตุ้นการใช้จ่ายทำให้เกิดความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการ

ภาคใต้

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ 57.2 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากอุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ทำจากยางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกรวมถึงมาตรการของภาครัฐที่ช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมของภาคใต้อีกทั้งเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยอนุญาตให้จัดกิจกรรมและเปิดสถานประกอบการได้เพิ่มขึ้นภายใต้แนวทาง Social Distancing ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ภาคกลาง

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 56.2 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ตามการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ประชาชนเริ่มออกมาท่องเที่ยวและใช้บริการโรงแรมและภัตตาคารมากขึ้น

กทม. และปริมณฑล

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 49.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการ อย่างไรก็ดี ภาคการลงทุนและการจ้างงานยังชะลอตัว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top