นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B กำลังผลิตรวม 114 เมกะวัตต์ ในเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าลาว (EDL) และได้ลงนามในสัญญาขายไฟให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เป็นเวลา 25 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2565 นั้น
บริษัทจึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 220 กิโลโวลต์ สามารถรองรับกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 500 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้โครงการสายส่งไฟฟ้าดังกล่าว มีความคืบหน้า และคาดว่าจะเป็นช่องทางขายไฟจาก สปป. ลาว ไปยังเวียดนามได้ตามแผนที่วางไว้
โครงการสายส่งไฟฟ้าดังกล่าว นอกจากจะใช้ในการส่งไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B กำลังการผลิตรวม 114 เมกะวัตต์ ของบีซีพีจีไปยังประเทศเวียดนาม ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับการไฟฟ้าเวียดนาม ซึ่งการไฟฟ้าเวียดนามจะมีการรับประกันการรับซื้อไฟในรูปแบบ Take-or-Pay และมีการรับชำระค่าไฟฟ้าในสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ แล้ว โครงการสายส่งฯ ยังมีศักยภาพ ในการรองรับโครงการโรงไฟฟ้าโครงการอื่นในพื้นที่ใกล้เคียงได้อีก ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจ การให้บริการสายส่งของบีซีพีจีในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ชาติของ สปป. ลาว ในการเป็นแบตเตอรี่แห่งเอเชีย และช่วยสร้างรายได้ให้ สปป. ลาว อีกทางหนึ่งด้วย
“บีซีพีจีเรามีการวางแผน การดำเนินการ และการประเมินความเสี่ยง ในทุกโครงการที่ลงทุนเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนตลอดมา โครงการนี้ก็เช่นเดียวกัน เราเข้าไปลงทุนใน สปป. ลาว สอดคล้องกับจุดเด่นและยุทธศาสตร์ของ สปป.ลาว ในการเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าของเอเชีย ขณะที่เรามองความต้องการ การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นของประเทศเวียดนามจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ โครงการผลิตไฟฟ้าใน สปป. ลาว เพื่อขายไฟไปยังเวียดนาม จึงเป็นหนึ่งในการดำเนินโครงการที่ทำให้สามารถเพิ่มเสถียรภาพด้านรายได้ และเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนให้กับบริษัทฯ อย่างยั่งยืน”
นายบัณฑิต กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 63)
Tags: BCPG, การไฟฟ้าลาว, บัณฑิต สะเพียรชัย, บีซีพีจี, สปป. ลาว, หุ้นไทย, โรงไฟฟ้าพลังน้ำ, ไฟฟ้า