- ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.00 น.)
- ผู้ติดเชื้อสะสม 3,516 คน (+2)
- เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ = 0 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 2 ราย
- รักษาหายแล้ว 3,353 คน (+8)
- ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 104 คน (-6)
- เสียชีวิตสะสม 59 คน (+0)
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติมอีก 2 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา 2 ราย
โดยผู้ป่วยยืนยัน 2 รายใหม่ที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกานั้น รายแรก เป็นชายไทย อายุ 38 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว เดินทางมาถึงไทยวันที่ 10 ก.ย.63 เข้าพักใน State Quarantine ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ ส่วนรายที่ 2 เป็นหญิงไทย อายุ 54 ปี อาชีพครูสอนภาษาอังกฤษ เดินทางมาถึงไทยวันที่ 17 ก.ย.63 เข้าพักใน State Quarantine ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 21 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,516 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 578 ราย และวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 8 ราย รวมเป็น 3,353 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 104 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย
สำหรับเที่ยวบินที่นำคนไทยตกค้างเดินทางกลับเข้าประเทศ วันที่ 24 ก.ย.63 รวม 538 คน เดินทางมาจากอิหร่าน 34 คน, จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 12 คน, สหรัฐอเมริกา (ผ่านฮ่องกง) 142 คน, จากเนปาล 6 คน, จากเมียนมา 26 คน, จากเกาหลีใต้ 202 คน และจากสหรัฐ (ผ่านโซล) 116 คน ส่วนวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.63) รวม 481 คน เดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 คน, จากไต้หวัน 250 คน, จากจีน 20 คน, จากเอธิโอเปีย 29 คน, จากสิงคโปร์ 81 คน และจากอินเดีย 100 คน
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 32,092,294 ล้านราย เสียชีวิตรวมแล้ว 981,958 ราย โดยประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อสูงสุดอันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อ 7,139,553 ราย รองลงมา อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ 5,730,184 ราย และอันดับสาม บราซิล มีผู้ติดเชื้อ 4,627,780 ราย
สำหรับประเด็นในต่างประเทศที่น่าสนใจนั้น นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุถึงมาตรการที่รัฐบาลแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แก่ การให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านหากสามารถทำได้ ขณะที่ผับและร้านอาหารจะต้องปิดร้านตั้งแต่เวลา 22.00 น. ประชาชนห้ามรวมกลุ่มกันมากกว่า 6 คน มีการกำหนดสถานที่มากขึ้นในการบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย และมีการกำหนดบทลงโทษสำหรับภาคธุรกิจและประชาชนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล
โดยนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ปฏิเสธที่จะประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งที่ 2 เหมือนที่เคยดำเนินการในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สนับสนุนให้ตรวจโควิด-19 ที่ท่าอากาศยานขาออก ซึ่งใช้เวลาเพียง 15 นาที แทนการให้ผู้เดินทางต้องไปกักตัวขาเข้าหลายวัน โดยวิธีนี้สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสได้เกือบทุกรายแก้ปัญหาการนำเชื้อเข้าประเทศ IATA หวังว่าจะมีชุดตรวจในเร็วๆ นี้ตามข้อมูลของบริษัทสุขภาพที่กำลังแข่งกันพัฒนาอยู่
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ของ IATA กล่าวว่า การเดินทางช่วงฤดูร้อนที่ซบเซาทำร้ายอุตสาหกรรมการบินที่มีปัญหาทางการเงินอยู่แล้วจากการเดินทางที่ลดลงทั่วโลกเพราะโควิด-19 และกำลังจะเผชิญกับฤดูหนาวที่ท้าทาย เพระมาตรการจำกัดการเดินทางการยังคงไม่ลดลง ทำให้จำนวนคนเดินทางยังไม่กลับมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 63)
Tags: COVID-19, ศบค., ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19, โควิด-19